“ศรีสุวรรณ” เตรียมเดินหน้า ร้องนายกรัฐมนตรี หวังพา “วัฒนา” กลับบ้านต่อสู้คดี

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยพร้อม นาย ชะเอม ปูนิ่ม อดีตประธานสภา อบต.คลองด่าน และ นายวรเดช หรือ บุญลือ โพธิอรุณ อดีตเลขานุการ อบต.คลองด่าน เดินทางไปที่สถานีโทรทัศน์ 13 สยามไทยย่านเมืองทองธานี เพื่อเข้าไปพูดคุยในรายการสามัคคีประชาชน  โดยมี นายอาทร พาทีพัฒนะ เป็นผู้ดำเนินรายการ หลังจากที่ ปปช.มีคำสั่งยกฟ้อง นายชะเอม ปู่นิ่ม  นายบุญลือ โพธิอรุณ และ นายณรงค์ ยอดศิรจินดา  กรณีที่ถูกกล่าวหาว่า ทุจริตต่อหน้าที่จัดประชุมเพื่อลงมติให้ใช้พื้นที่ในเขตรับผิดชอบเพื่อสร้างโรงบำบัดน้ำเสียคลองด่านเป็นเท็จ

โดยเนื้อหาการพูดคุยในรายการ สามัคคีประชาชน นายศรีสุวรรณ จรรยา กล่าวกลางรายการว่า วันนี้พร้อมเดินหน้าช่วยเรียกความเป็นธรรม ให้กับผู้ที่ถูกกล่าวหา ร่วมทั้ง นายวัฒนา อัศวเหม อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ถูกกล่าวหา ว่าใช้อำนาจ ขณะที่ดำรงตำแหน่งทางการเมือง บังคับขู่เข็ญ ให้มีการจัดการประชุม ซึ่งตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมา นายวัฒนาอัศวเหมไม่ได้รับความเป็นธรรมซึ่งอยากจะ ขอขับเคลื่อน รื้อฟื้นคดี เพื่อขอความเป็นธรรม ให้กับ นายวัฒนา อัศวเหม

โดยส่วนตัว คิดเห็นว่าเมื่อ ปปช.ชี้มูลความผิด มีหนังสือยืนยัน ยกคำร้อง ก็น่าจะเป็นข้อมูลใหม่ในทางคดี ที่อาจจะต้อง นำเรื่องนี้ให้ไปขอให้รื้อฟื้น การพิจารณาคดีในคดีความที่พิพากษาเป็นที่สุดไปแล้ว ขึ้นมาใหม่

เพราะตอนนี้ มีข้อมูลใหม่จาก ปปช. มีหนังสือแจ้งเข้ามา ทั้ง 4 คน ว่า ตามที่ท่านได้ เคย ถูกกล่าวหาว่าทุจริตต่อหน้าที่ นั้น บัดนี้ ปปช. ได้สอบสวนไต่สวนแล้ว ไม่พบข้อมูลความผิด ตามที่ถูกกล่าวหา จึงยกคำร้อง ซึ่งทั้ง 4 คน ป.ป.ช ยกคำร้องทั้งหมด เมื่อยกคำร้องแล้ว เขาก็คือผู้บริสุทธิ์ แต่ว่า ภาพลักษณ์หรือข่าวที่มันออกไป ก่อนหน้านี้ หลายๆ ปีที่ผ่านมา ทำให้ได้รับความเสียหาย และย้อนถามกลับมาว่า สังคมจะแก้ไขปัญหานี้ กับคนที่ถูกกล่าวหานี้อย่างไร รวมทั้งมูลเหตุเหล่านี้นำไปใช้ในคดีความต่างๆต่อเนื่องทั้งคดีแพ่งและคดีอาญาของศาลฎีกา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วยเราจะแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างไรซึ่งส่วนตัวคิดว่า เมื่อปปช ชี้มูลมีหนังสือยืนยันยกคำร้อง ซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลใหม่ ในทางคดีถือว่าเป็นข้อมูลใหม่ที่อาจจะต้องนำเรื่องนี้ไปขอให้มีการรื้อฟื้นการพิจารณาคดี ที่เป็นที่สุดมาแล้ว ให้รื้อฟื้นขึ้นมาใหม่

ซึ่งตรงนี้เป็นประเด็นที่คิดว่า ทุกคนได้รับความเสียหาย รวมทั้ง นายวัฒนา อัศวเหม ถึงแม้ว่าตอนนี้ไม่ได้อยู่ในประเทศ ต้องลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ และเห็นว่าคนไม่ได้กระทำความผิด อยู่ๆจะมาถูกลงโทษ จองจำ ให้ เสมือนเป็นนักโทษในคุกในตารางนั้นมันไม่ใช่

สิ่งที่ได้ผลกระทบที่ผ่านมา เห็นได้ว่าเจ้าหน้าที่ อบตคลองด่านทั้ง 3 คน จะรับความเป็นธรรม อย่างน้อย ก็ได้กู้ชื่อเสียงกลับคืนมา รวมทั้งของนายวัฒนาด้วยซึ่งก็ได้รับความเสียหายแม้วันนี้จะไม่ได้อยู่ในประเทศ ต้องลี้ภัยไปอยู่ต่างประเทศ

วันนี้ คิดว่าฟ้าเริ่ม เปิด อากาศเริ่ม แจ่มใส วันนี้ต้องออกมาขับเคลื่อนเพื่อที่เรียกร้องความเป็นธรรมให้ซึ่งก่อนหน้านี้ พี่น้องชาวจังหวัดสมุทรปราการ หลายคนได้บุกไปที่สำนักงาน เพื่อขอให้ช่วยเรียกร้องขอความเป็นธรรมให้ ทั้งสามคน รวมทั้ง นายวัฒนา อัศวเหม วันนี้จึงออกมา ช่วยเหลือ เพื่อให้ความเป็นธรรม กับบุคคลดังกล่าว เพราะโดยส่วนตัวแล้ว เมื่อไข่มาร้องเรียนขอความเป็นธรรม ก็จะให้การช่วยเหลือ ไม่ว่า คนเรานั้นจะมีประวัติมี Background เป็นอะไรอย่างไร เพราะถือว่าความเป็นธรรมในฐานะนักกฎหมายความเป็นธรรมต้องถือเป็นประเด็นหลัก เป็นหัวใจในการทำงาน

ซึ่งหลังจากนี้ก็จะมีการตรวจสอบจากหลักฐานเดิม ที่มีอยู่แล้ว เพื่อมาเทียบเคียงกับ พยานหลักฐาน ของปปช ซึ่งเราอาจจะไปร้องขอความเป็นธรรม จากท่านนายกรัฐมนตรีเพราะถือว่าเป็นเบอร์ 1 ของประเทศ ขอให้ช่วยสั่งการ ไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งต้องไล่มาจากกระทรวงยุติธรรม นั่นก็คือ คุณสมศักดิ์เทพสุทิน จากนั้นไปที่สำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งถือว่าเป็นโจทก์เป็นทนายแผ่นดินที่ฟ้องเรื่องนี้ คดีความต่างๆรวมถึงผู้ตรวจการแผ่นดิน ซึ่งมีหน้าที่ที่จะรับเรื่องร้องทุกข์เกี่ยวกับความไม่เป็นธรรม ในแผ่นดินนี้ เมื่อทำเรื่องเสนอไปยัง ท่านนายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี และรัฐสภา และเรื่องนี้อาจจะไปร้องถึงกรรมาธิการในสภาผู้แทนราษฎร ว่า มีการดำเนินการในทางตุลาการที่ อาจจะไม่เป็นธรรมกับทั้ง 3 4 คน นี้ ซึ่งเป็นการวางแผนไว้ว่าจะดำเนินการเป็นขั้นเป็นตอน อย่างน้อยก็ได้เรียกความยุติธรรม ให้คนเหล่านี้กลับคืนมา ส่วนความจริงจะเป็นอย่างไร ณวันนี้ ต้องเข้าสู่กระบวนการที่เป็นที่ยอมรับ เพื่อ เอาความจริงให้ปรากฏ

• Facebook
• Twitter
• Line