กรมศุลกากรตรวจยึดยาเมทแอมเฟตามีน (ไอซ์) พยายามลักลอบส่งออกไปประเทศมาเลเซีย น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 62 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 37 ล้านบาท
วันที่ 24 พฤศจิกายน 2563 นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร นายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านระบบควบคุมทางศุลกากร พร้อมนายวิชัย ไชยมงคล เลขาธิการ ป.ป.ส. พล.ต.อ.มนู เมฆหมอก รอง ผบ.ตร. พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.มนตรี ยิ้มแย้ม ผบช.ปส. พล.ท.กนกพงษ์ จันทร์นวล ผบ.ศรภ. เรือโท กมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย และนายบัณฑิต สาครวิศวะ ผู้อำนวยการท่าเรือกรุงเทพ ได้ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจยึดยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ไอซ์) น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 62 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 37 ล้านบาท ตามที่นายพชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมศุลกากร มีนโยบายด้านการควบคุมทางศุลกากร และปกป้องสังคมอย่างเคร่งครัด ดังนั้น นายชัยยุทธ คำคุณ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากร นายกิตติ สุทธิสัมพันธ์ ที่ปรึกษาด้านการพัฒนาและบริหารการจัดเก็บภาษี นายธาดา ชุมไชโย ผู้อำนวยการกองสืบสวนและปราบปราม นายบุญมา สิริธรังศรี ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ จึงได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ศุลกากรกองสืบสวนและปราบปราม และสำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ เข้มงวดในการสกัดกั้นการลักลอบนำเข้า/ส่งออกยาเสพติด และร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขยายผลการตรวจยึด-จับกุมไปยังผู้เกี่ยวข้องที่อยู่เบื้องหลัง
นอกจากนี้ มีการบูรณาการกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายอื่นทั้งในและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง อาทิ ทหาร กอ.รมน. ป.ป.ส. บช.ปส.กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติสถานทูตต่าง ๆ องค์การตำรวจสากล (Interpol) สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (Drug Enforcement Administration:DEA) เป็นต้น เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลการข่าวระหว่างกัน โดยเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2563 เวลาประมาณ 10.30 น. เจ้าหน้าที่ศุลกากร กองสืบสวนและปราบปราม ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ศุลกากรสำนักงานศุลกากรท่าเรือกรุงเทพ เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส. เจ้าหน้าที่ตำรวจ บช.ปส. เจ้าหน้าที่ ศรภ. ทำการตรวจสอบสินค้าที่จะส่งออกไปยังประเทศมาเลเซีย สำแดงชนิดสินค้าเป็น เศษอลูมิเนียม (ALUMINUM ENGINE WITH GEARBOX (SCRAB)) ผลการตรวจสอบสินค้าดังกล่าว ซึ่งเป็นเครื่องยนต์เก่า สภาพชำรุด จำนวนทั้งหมด 74 เครื่อง พบยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เมทแอมเฟตามีน (ไอซ์) น้ำหนักรวมสิ่งห่อหุ้ม ประมาณ 62 กิโลกรัม บรรจุอยู่ในถุงชาจีนแบบสูญญากาศ ซุกซ่อนอยู่ภายในช่องว่างของเครื่องยนต์เก่า จำนวน 33 เครื่อง มูลค่ายาเสพติดประมาณ 37 ล้านบาท
จากการกระทำดังกล่าว ผู้ส่งออกมีความผิดฐาน “พยายามนำยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ออกนอกราชอาณาจักร โดยไม่ได้รับอนุญาต และมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 และความผิดตามมาตรา 244 และมาตรา 252 ประกอบมาตรา 166 และ 167 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560” ทั้งนี้จะได้นำของกลางส่งพนักงานสอบสวน กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และ ติดตามจับกุมผู้ส่งออกและผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไปอนึ่ง ในรอบปี พ.ศ. 2563 ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นมา กรมศุลกากรมีสถิติการตรวจยึดยาเสพติดให้โทษรวมทั่วประเทศ ได้ทั้งสิ้น จำนวน 143 คดี มูลค่าประมาณ 5,488,151,748 บาท