ทสภ. เตรียมแผนรับนักท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์ อำนวยความสะดวกบินวิถีใหม่ ปลอดภัย
ทสภ. เตรียมแผนรับนักท่องเที่ยวช่วงเทศกาลสงกรานต์ อำนวยความสะดวกบินวิถีใหม่ ปลอดภัย ห่างไกลโควิด-19
ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) เตรียมแผนอำนวยความสะดวกรองรับการเดินทางของผู้โดยสารช่วงเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2564 หลังรัฐบาลได้มีการผ่อนปรนการควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 รวมถึงได้ประกาศให้มีวันหยุดยาวตลอดเทศกาลตั้งแต่วันที่ 10 – 15 เมษายน 2564 รวม 6 วัน โดย ทสภ. ได้มีการยกเว้นค่าบริการลานจอดรถระยะยาวโซน C เพื่อช่วยลดภาระแก่ผู้ใช้บริการ พร้อมยกระดับการให้บริการด้วยการจองรถแท็กซี่ล่วงหน้าผ่าน AOT AIRPORTS APP เน้นย้ำผู้โดยสารและผู้ใช้บริการรักษามาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19 อย่างเคร่งครัด ตามหลักบินวิถีใหม่ D – M – H – T – T เพื่อความปลอดภัยห่างไกลโควิด – 19
นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ประจำปี 2564 ระหว่างวันที่ 9 – 18 เมษายน 2564 (รวม 10 วัน) ทสภ. คาดการณ์ว่าจะมีผู้โดยสารภายในประเทศใช้บริการรวมทั้งสิ้นประมาณ 370,000 คน หรือเฉลี่ยวันละประมาณ 37,000 คน ในส่วนของเที่ยวบินภายในประเทศมีจำนวนทั้งสิ้น 3,100 เที่ยวบิน หรือเฉลี่ยวันละ 310 เที่ยวบิน แบ่งเป็นเที่ยวบินตามตารางการบินจำนวน 2,758 เที่ยวบิน เที่ยวบินพิเศษจำนวน 342 เที่ยวบิน สำหรับสายการบินประจำที่ขอเพิ่มเที่ยวบินพิเศษและเช่าเหมาลำมากที่สุด 2 อันดับแรก คือ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส จำนวน 270 เที่ยวบิน และสายการบินไทยสมายล์ จำนวน 72 เที่ยวบิน ซึ่งหากเปรียบเทียบกับช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2562 ซึ่งเป็นปีก่อนที่จะเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 จะเห็นว่าผู้โดยสารภายในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 และในส่วนของเที่ยวบินในประเทศเพิ่มขึ้นร้อยละ 30 สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศยังคงมีให้บริการอยู่ แต่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการอนุญาตให้อากาศยานทำการบินเข้า – ออกประเทศไทย และผู้โดยสารต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่ควบคุมโรคติดต่อ และต้องปฏิบัติตามมาตรการของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ กล่าวว่า ช่วงเวลาดังกล่าวจะมีผู้โดยสารเดินทางภายในประเทศเป็นจำนวนมาก ทสภ.จะมีการเปิดใช้ประตู 3 ที่อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 เพิ่มเติม ตั้งแต่เวลา 05.00 น. ในวันที่ 5 – 18 เมษายน 2564 หลังจากที่ปิดประตูตามมาตรการคัดกรองผู้โดยสาร เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 ทั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถเข้าอาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ได้ที่ประตู 2, 3 และ 9 เท่านั้น นอกจากนี้ ทสภ. ได้มีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่และจัดเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ให้มีความพร้อมในการรองรับการใช้บริการของผู้โดยสารในช่วงเวลาดังกล่าว อาทิ เพิ่มเจ้าหน้าที่บริเวณจุดตรวจค้นร่างกายและสัมภาระผู้โดยสาร เพิ่มเจ้าหน้าที่จราจรในการให้บริการผู้โดยสารที่บริเวณด้านหน้าชานชาลาอาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 เพื่อแก้ไขการจราจรคับคั่งในช่วงเวลาที่มีรถเข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก เพิ่มเจ้าหน้าที่ รปภ. และเจ้าหน้าที่ EOD ในการตรวจพื้นที่ และตรวจสอบเฝ้าระวังวัตถุต้องสงสัย รวมทั้งเฝ้าสังเกตการณ์ด้วยกล้อง CCTV ตลอด 24 ชั่วโมง รวมถึงเจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกและแนะนำผู้โดยสารก่อนเข้าจุดตรวจค้นผู้โดยสารและสัมภาระ นอกจากนี้ในส่วนของการให้บริการ ทสภ. ได้จัดเตรียมรถเข็นกระเป๋าให้มีจำนวนที่เพียงพอต่อการใช้งานกระจายตามจุดต่าง ๆ อย่างทั่วถึง และเพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดห้องน้ำทุก ๆ 10 นาที ตลอด 24 ชั่วโมง เป็นต้น
นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ กล่าวต่อไปว่า เพื่อเป็นการยกระดับการให้บริการด้านการคมนาคมขนส่ง ทสภ. ได้เปิดให้บริการจองรถแท็กซี่ผ่านแอพพลิเคชั่น AOT AIRPORTS APPLICATION ซึ่งจะให้บริการเฉพาะผู้ใช้บริการที่ ทสภ.ที่ดาวน์โหลด APPLICATION แล้วเท่านั้น โดยต้องอยู่ในรัศมีการให้บริการภายใน ทสภ. ไม่เกิน 1 กิโลเมตร ผู้ใช้บริการสามารถกดจองรถแท็กซี่ โดยจะเลือกเป็นรถแท็กซี่ทั่วไปหรือรถแท็กซี่ขนาดใหญ่ก็ได้ หลังจากกดยืนยันการจองระบบจะแสดงหน้าจอ หมายเลขทะเบียนรถ ชื่อคนขับ และหมายเลขช่องจอดรถ ให้ผู้ใช้บริการเดินไปรอยังจุดจอดรถที่ช่องจอดที่ระบุไว้ บริเวณชานชาลาหน้าอาคารผู้โดยสาร ชั้น 1 ภายในระยะเวลาไม่เกิน 15 นาที และเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 ทสภ. ได้กำชับให้สมาชิกผู้ขับขี่รถแท็กซี่ต้องสวมหน้ากากอนามัยระหว่างการให้บริการและต้องทำความสะอาดภายในรถ รวมถึงเบาะนั่งด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคทุกครั้งทั้งก่อนและหลังการให้บริการด้วย
นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อเป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้โดยสารและผู้ใช้บริการ ทสภ. ได้ยกเว้นอัตราค่าบริการจอดรถยนต์ที่ลานจอดรถยนต์ระยะยาวโซน C ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 9 เมษายน 2564 เวลา 08.00 น. จนถึง วันศุกร์ที่ 16 เมษายน 2564 เวลา 17.00 น. รวม 8 วัน โดยลานจอดรถโซนดังกล่าวสามารถรองรับรถยนต์ได้จำนวน 718 คัน ทั้งนี้ ทสภ. มีรถ Shuttle Bus สาย A วิ่งให้บริการรับ – ส่ง ผู้โดยสารทุก ๆ 15 นาที ฟรี ตลอด 24 ชั่วโมงและนอกจากลานจอดรถยนต์ระยะยาวโซน C แล้ว ทสภ. ยังมีอาคารและลานจอดรถยนต์โซนอื่น ๆ รองรับการให้บริการได้แก่ อาคารจอดรถยนต์โซน 3 รองรับช่องจอดได้ 2,038 คัน, ลานจอดรถโซน 4 รองรับช่องจอดได้ 251 คัน, ลานจอดรถโซน 5 รองรับช่องจอดได้ 455 คัน , ลานจอดรถโซน 6 มีหลังคากันแดด รองรับช่องจอดได้ 689 คัน และลานจอดรถโซน 7 มีหลังคากันแดด รองรับช่องจอดได้ 666 คัน โดยคิดอัตราค่าบริการชั่วโมงละ 25 บาท หากเกิน 7 ชั่วโมง จะคิดเป็นอัตราเหมาวันละ 250 บาท ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ปฏิบัติการอาคารจอดรถยนต์ หมายเลขโทรศัพท์ 0 2132 9511 ตลอด 24 ชั่วโมง
นาวาอากาศโทสุธีรวัฒน์ กล่าวในตอนท้ายว่า ที่ผ่านมา ทสภ. ได้ให้ความสำคัญในการปฏิบัติตามมาตรฐานด้านสาธารณสุข โดยเน้นย้ำในการดูแลรักษาความสะอาดในทุกพื้นที่ภายในท่าอากาศยาน รวมถึงบริเวณพื้นที่จุดสัมผัสต่าง ๆ เช่น ห้องน้ำ ลิฟต์ ทางเดินเลื่อน แบบ Deep Cleaning อย่างต่อเนื่องทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง และได้ขอความร่วมมือให้ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการทุกคนต้องถือปฏิบัติยึดหลักวิถีบินใหม่ D – M – H – T – T ซึ่งประกอบด้วย D (DISTANCING) เว้นระยะห่างกัน หลีกเลี่ยงการสัมผัสผู้อื่น M (MASK- WEARING) สวมหน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัยตลอดเวลา H (HAND WASHING) หมั่นล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ T (TEMPERATURE CHECK) ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย และ T (THAICHANA) สแกนแอปพลิเคชั่นไทยชนะ
อนึ่ง ทสภ. ขอให้ผู้โดยสารและผู้ใช้บริการเชื่อมั่นและมั่นใจในมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 ที่ ทสภ. ได้ปฏิบัติตามหลักปฏิบัติของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด และขอความร่วมมือผู้โดยสารและผู้ใช้บริการเผื่อเวลาเดินทางล่วงหน้ามายังสนามบิน 2 – 3 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการล่าช้าอันเกิดจากกระบวนการคัดกรองผู้โดยสาร ทสภ. ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้ ทั้งนี้สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ AOT Contact Center หมายเลขโทรศัพท์ 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง