โครงการบ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่านเกิดปมแผลในใจของคนไทยทั้งประเทศ ที่เงิน 2 หมื่นกว่าล้านบาท ถูกเทกระจาดไปให้กับโครงการที่รวมหัวกันโกงของกลุ่มทุน เครือข่ายนักการเมืองในเวลานั้น และกลุ่มบริษัทเหล่านี้ก็ยังคงลอยนวล เจริญเติบโต เติบใหญ่เป็นบริษัทก่อสร้างยักษ์ใหญ่ของไทยเราจนถึงวันนี้
เกิดปมแผลในใจของชาว จ.สมุทรปราการ ที่ถูกสังคมตีตราว่า เป็นจังหวัดที่มีการโกงมากที่สุด!
คณะกรรมการ ป.ป.ช.ท่านหนึ่งถึงกับกล่าวว่า ไม่ว่างานอะไรก็ตามหากข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ กับนักการเมืองร่วมมือด้วยกันทำแล้ว “จงจำตรงนี้ไว้ให้ดีนะครับเพราะต่อมามันจะเป็นมหากาพย์การโกง ”
ในเวลานั้น หน่วยงานที่รู้เห็นเป็นใจ เปิดช่องให้มีการโกงเกือบทุกขั้นตอนคือ “กรมควบคุมมลพิษ” โดยข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ยุคนั้น ”แกล้งโง่” “ปิดหู” “ปิดตา” ทำงาน ดังรายงานของ ป.ป.ช.ที่ระบุว่า มีการทำผิดขั้นตอนของระบบราชการเกือบทุกขั้นตอน
ปมการทุจริต การโกง คือ เมื่อกลุ่มบริษัทกิจการร่วมค้า NVPSKG ที่ล้วนเป็นกลุ่มเครือญาติ หรือเป็นของนักการเมืองระดับรัฐมนตรีในเวลานั้น เสนอวิธีการ เสนอโครงงานอะไรมา ส่วนราชการรับดำเนินการทั้งสิ้น ไม่โต้แย้ง และพร้อมทำผิดระเบียบราชการ
กลุ่มกิจการร่วมค้าเสนอเพิ่มงบประมาณจากหมื่นกว่าล้าน เป็นสองหมื่นกว่าล้าน บอกว่างบประมาณของเดิม 13,000 กว่าล้านบาทมันน้อยไป โดยได้เสนอแบบรวมระบบไว้ที่ฝั่งตะวันออก ที่ดินมันเพิ่มมากขึ้น ต้องเพิ่มงบประมาณเป็น 22,701 ล้านบาท เพราะว่าจะต้องมีการวางท่อใต้ดิน และระบบอุโมงค์ ซึ่งมีราคาก่อสร้างสูงกว่า กรมควบคุมมลพิษก็ตอบรับทันที เสนอรวมโครงการฝั่งตะวันออกและตะวันตกเข้าด้วยกัน
สรุปแล้วก็ได้ราคา 22,955 ล้านบาท น่าแปลกที่กรมควบคุมมลพิษในวันนั้น…กลับยอมทำตาม คือเห็นตามกับกลุ่มกิจการร่วมค้าของเอกชน และที่สำคัญคือ เรื่องนี้ไม่ได้มีการนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอีกด้วย .. ผิดระเบียบวิธีปฏิบัติชัดเจน
อีกทั้งรายงานการวิจัย ก็สรุปออกมาว่า ตำบลคลองด่านไม่เหมาะที่จะใช้เป็นสถานที่ก่อสร้าง เพราะว่าดินเหลว และอยู่ใกล้ชายฝั่งทะเลเกินไป ปัญหาคือจะเกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม .. กรมควบคุมมลพิษในเวลานั้นก็ไม่สนใจ
ต่อมาบริษัท N คือ บริษัท นอร์ธเวสต์ วอเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ที่มีประสบการณ์ในการก่อสร้างบ่อบำบัดน้ำเสียมาก่อนตามทีโออาร์ ถอนตัวออกไปดื้อๆ เรื่องนี้เป็นปัญหาใหญ่ เพราะว่าบริษัทนี้เป็นบริษัทผู้เชี่ยวชาญในด้านบำบัดน้ำเสีย ซึ่งบริษัทอื่นที่เหลือไม่มีความชำนาญในเรื่องนี้เลย
และการเปลี่ยนแปลงคู่สัญญานี้ ไม่ได้มีการนำเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงวิทยาศาสตร์ กลับดำเนินโครงการต่อไปและจ่ายค่าจ้างให้กับกลุ่มบริษัทกิจการร่วมค้าไป ทั้งที่คู่สัญญาไม่ครบ..ตรงนี้ก็คืออีกปมการทุจริต
และนี่คือที่มาของผลการตรวจสอบระบุชัดว่า การก่อสร้าง การจัดซื้อจัดจ้าง มีการทำผิดกฏระเบียบราชการทุกขั้นตอน มีการทุจริตทุกขั้นตอน
เมื่อต้องยุติการดำเนินโครงการ และระงับการจ่ายเงิน หลังดำเนินการก่อสร้างไปแล้วกว่า 98% คือโครงการนี้เกือบจะเสร็จเรียบร้อยแล้ว มีการจ่ายเงินไป 54 งวด จากทั้งหมด 58 งวด รวมเป็นเงินกว่า 2 หมื่นล้านบาท จากงบประมาณที่ตั้งไว้ 22,950 ล้านบาท ..
แปลกมากที่เร่งปิดโครงการ? .. สังคมเลยถาม ปิดโครงการ หรือเพื่อปกปิดอะไร?
รายงานยังระบุว่างบที่จ่ายไปประมาณ 97 เปอร์เซ็นต์ถูกใช้เป็นค่าก่อสร้าง!
แปลกมั้ย? เงินที่หายไปกว่า 2 หมื่นล้านกับการก่อสร้าง ที่ไม่มีการตรวจสอบหาคนทำผิด ลากตัวคนผิดมาดำเนินคดี แต่กลับมาไล่ล่า นายวัฒนา อัศวเหม ที่แกนนำรุ่นใหญ่เผยกับผู้สื่อข่าวฟังว่า มีกระบวนการพยายามโยงใยว่าเอาที่ดินมาขายมูลค่าเงินพันกว่าล้าน ให้สังคมช่วยกันสาปแช่ง ว่า “คนโกงชาติ”
แล้ว ”คนร้ายตัวจริง” ที่หอบเงินเกือบหมื่นล้าน แล้วทิ้งซากโครงการ เอาไว้ให้คนไทยดูต่างหน้า..ยังเสพสุข ยังยิ่งใหญ่ลอยหน้าลอยตาอยู่ในปัจจุบัน
ทำไม ไม่มีใครคิดจะลากตัวออกมาบ้าง!!!
#คดีคลองด่าน #บ่อบำบัดน้ำเสียคลองด่าน