เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ที่ผ่านมา พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผู้บังคับหารกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ผบก.ปอศ.) พ.ต.อ.ภาดล จันทร์ดอน ผกก.5 บก.ปอศ. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.5 บก.ปอศ. จับกุม นางสาวปาริฉัตร (สงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี นายอดิพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี นายอโนชา (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี นายเกียรติศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 23 ปี นายชัยวัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 21 ปี นายศุภชัย (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี นายสุทธิพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี นายสุเมธ (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี และ นายณัฐกานต์ (สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี กลุ่มบุคคลผู้ปล่อยเงินกู้นอกระบบ พร้อมของกลาง หลักฐานการกู้ยืมเงินของผู้กู้ซึ่งพบว่ามีผู้กู้นับร้อยราย, หนังสือสัญญา กู้ยืมเงิน, นามบัตรที่ใช้แจกจ่ายให้ประชาชนทั่วไปที่ต้องการกู้เงินเกือบ 40,000 ใบ และ รถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการขับขี่ไปทวงถาม-เก็บเงินกู้ จากผู้กู้ 7 คัน ได้ที่บ้านเลขที่ ๑๘๔/๔๑๙ หมู่ ๒ ต.แพรกษาใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ ในขณะที่กลุ่มผู้ต้องหากำลังเตรียมตัวจะออกไปเรียกเก็บเงินกู้จากผู้กู้
พ.ต.อ.ภาดล กล่าวว่าศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปน.ตร.) ซึ่งมี พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. เป็นผู้อำนวยการศูนย์ฯ และ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นรองผู้อำนวยการศูนย์ฯ จึงมอบนโยบายให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกสังกัด เร่งกวาดล้าง และจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบอย่างเข้มงวด
ทาง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้ให้ความสำคัญต่อความเดือดร้อนของประชาชนในกรณีดังกล่าว จึงสั่งการให้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ โดย พล.ต.ต.พุฒิเดช ระดมกวาดล้างจับกุมผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบอย่างจริงจัง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน ของประชาชน ต่อมาสืบสวนทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหามีพฤติการณ์ลักลอบปล่อยเงินกู้นอกระบบ และ เรียกดอกเบี้ยอัตราสูง มีลักษณะเป็นแก๊งหมวกกันน๊อค แต่มีการปรับเปลี่ยนวิธีดำเนินการโดยใช้สื่อโซเชียลมีเดียโฆษณาเฟซบุ๊ก ชักชวนผู้มีปัญหาทางการเงินให้ติดต่อกู้ยืมเงิน นอกจากนี้กลุ่มผู้ต้องหายังใช้แก๊งหมวกกันน๊อคกระจายลงพื้นที่แจกนามบัตรโฆษณา ขอเบอร์โทรศัพท์ของพ่อค้าแม่ค้า และผู้มีรายได้เป็นรายวันตลอดจนผู้ที่ประสบปัญหาด้านการเงิน จากนั้นจะส่งข้อความ (SMS) ไปหากลุ่มบุคคลดังกล่าว ทำให้มีผู้มากู้ยืนเงินเป็นจำนวนมาก
พ.ต.อ.ภาดล กล่าวอีกว่าสำหรับวิธีการเก็บเงินต้น และดอกเบี้ยนั้น จะใช้วิธีการให้แก๊งหมวกกันน๊อคไปเรียกเก็บเป็นรายวัน โดยคิดดอกเบี้ยในอัตรา ร้อยละ ๒ ต่อวัน เช่น กู้เงิน ๑๐,๐๐๐ บาท จะต้องจ่ายดอกเบี้ยรายวันๆ ละ ๒๐๐ บาท คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยร้อยละ ๖๐ บาทต่อเดือน หรือ ร้อยละ ๗๓๐ บาท ต่อปี ซึ่งเป็นการเอารัดเอาเปรียบสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชน ชุดจับกุมจึงจับกุมตัวพร้อมของกลาง โดยแจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกัน ประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาตและเรียกดอกเบี้ย เกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด” นำส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ผกก.5 บก.ปอศ. กล่าวว่าขอฝากถึงพี่น้องประชาชน หากมีเบาะแสเกี่ยวกับการปล่อยเงินกู้นอกระบบที่เอารัดเอาเปรียบประชาชน สามารถแจ้งเบาะแสมาได้โดยตรงที่ ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปน.ตร.) สายด่วน ๑๕๙๙ เพื่อนำไปสู่การจับกุมผู้กระทำผิดต่อไป
Admin
Recommended To You
