ผู้ช่วย ผบ.ตร. มาตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญ และให้กำลังใจแก่ข้าราชการตำรวจ สภ.บางแก้ว พร้อมรับฟังปัญหา
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมคณะได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมบำรุงขวัญและให้กำลังใจแก่ข้าราชการตำรวจ สภ.บางแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ และมอบสิ่งของจาก ผบ.ตร. ที่ได้ส่งมอบมาให้ข้าราชการตำรวจเพื่อสร้างขวัญ และกำลังใจแก่ข้าราชการตรำวจ โดยมี พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ พ.ต.อ.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย พ.ต.อ.สุรวุฒิ แสงรุ่งเรือง รอง ผบก. พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจระดับผู้กำกับการทุกสถานีในจังหวัดสมุทรปราการ ร่วมให้การต้อนรับ ก่อนเข้ารับฟังปัญหา และอุปสักในการปฎิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจเพื่อนำไปปรับปรุง และแก้ไข
พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้ช่วย ผบ.ตร. ได้เปิดเผยว่า ที่ตนเดินทางมาที่ สภ.บางแก้ว สมุทรปราการ ในวันนี้มันเป็นวาระของการตรวจราชการตรวจเยี่ยมเพื่อเป็นขวัญ และกำลังใจในปีงบประมาณ 65 ตั้งแต่ปีใหม่มาแล้วที่ข้าราชการตำรวจต้องปฎิบัติหน้าที่ในช่วงเทศกาลหลาย ๆ เทศกาล และการดูแลในช่วงสถานการณ์โควิด 19 ในช่วงที่มีการตรวจเข้มการเฝ้าระวังพื้นที่สีแดงพื้นที่สีส้มเหลืองต่าง ๆ ก็ไม่ได้พักกันเลย และเมื่อสถานการณ์คลี่คลายลง ท่าน ผบ.ตร. ก็มีนโยบายให้รอง ผบ.ตร. และผู้ช่วย ผบ.ตร. รวมทั้งผู้บริหารระดับ ตร.ลงมาตรวจเยี่ยมข้าราชการตำรวจในพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งตนก็ได้รับการมอบหมายให้ดูแลในพื้นที่ ภาค 1 และนครบาล ซึ่งเมื่อวานนี้ก็ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมตำรวจนครบาลทั้ง 3 หน่วยงาน และในวันนี้ก็ได้เดินทางมาให้กำลังใจแก่ข้าราชการตำรวจภาค 1 และภาค 2 และพรุ่งนี้ก็จะเดินทางไปที่ภาค 3 ซึ่งก็จะมีท่านรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและผู้ช่วย ผบ.ตร.อีกชุดหนึ่งที่ออกไปทั่วประเทศเราไปให้ขวัญ และกำลังใจมอบสิ่งของบำรุงขวัญ เป็นถุงของขวัญที่ทาง ตร.จัดมาให้ข้าราชการครบทุกที่ และมารับฟังปัญหาอุปสัก และข้อขัดข้องในพื้นที่ ซึ่งตนก็ได้ให้ฝ่ายเลขาทำรายงานรวบรวมปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้ เพื่อที่จะเอาไปพลีเซ็นในช่วงของการประชุมบริหารระดับ ตร. เราจะรวบรวมทั้งหมดและดูว่าปัญหาหลัก ๆ อันไหนที่เป็นความเร่งด่วนก็จะเร่งแก้ปัญหาให้ โดยเฉพาะในเรื่องของกำลังพลที่ย้ายออกไปแล้ว และการเติบโตของชุมชน อย่างในพื้นที่ตรงนี้ของบางแก้ว ประชาชนที่มีภูมิลำเนาอยู่กว่าแสนคน แต่จำนวนประชากรแขวงที่เข้ามาอยู่อีกเยอะมาก คดีมีแต่เพิ่มขึ้น แต่จำนวนข้าราชการตำรวจมันมีอยู่น้อยโดยคิดต่อหัวแล้วบางที่ที่เคยคำนวนแล้วในสมุทรปราการ ตำรวจ 1 คนต้องดูแลพี่น้องประชาชนมากถึง 600 คน มันเกินขีดความสามารถเราเลยจำเป็นต้อมีคณะ กก.ตร.เป็นคนที่จะส่งข้อมูลข่าวสารและช่วยเหลือข้าราชการตำรวจในการขับเคลื่อนข้าราชการตรวจใน สภ.บางแก้ว ให้ไปทุกที่เราจะมีคณะ กก.ตร.อยู่ แต่ความแข็งแรงของ กก.ตร.ของแต่ละที่มันมีความแต่ต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ ซึ่งได้ทราบว่าทาง สภ.บางแก้ว มีการบริหารจัดการที่ดี เวลาที่เดินทางไปตรวจพื้นที่ไหนก็จะเอาตัวอย่างของ สภ.บางแก้ว ไปยกให้เขาดู และปฎิบัติตาม
ซึ่งเป็นนโยบายของ ตร. ที่จะต้องกำหนดรูปแบบของการบริหารองค์กรออกมาด้วยในภาพรวม อันนี้ก็เป็นภาพรวมของ อัตรากำลังพล แต่เราไม่สามารถที่จะเอาคนไปทำการเทรนนิ่งเพื่อที่จะให้ มันเลยต้องมีคณะ กก.ตร. ต่าง ๆ เหล่านี้ที่มาช่วยเป็นหูเป็นตาให้แก่ข้าราชการตำรวจในการขับเคลื่อน ซึ่งทุกที่เราก็จะมีคณะ กก.ตร. แต่ความแข็งแรงหรือความเป็นยูรานีตี้ของ กก.ตร. ก็จะแตกต่างกันไปของแต่ละพื้นที่ เรื่องกำลังพลเราก็เข้าใจแต่มันติดในเรื่องของงบประมาณที่ถูกตัดออก ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติงบประมาณที่ถูกตัดออกไปเยอะมากหลายพันล้าน เพราะฉะนั้นในการอบรมกำลังพล อย่างหลักสูตรผู้กำกับและสารวัตรเราจะเห็นชัด ๆ ที่ บชส.จัดปีนี้เราอบรมได้แค่รุ่นเดียว ปกติจะมีอยู่ 4-5 รุ่น งบในการอบรมต่าง ๆ มันถูกตัดหมด ต้องลงไปใช้ในงบตัวอื่น อันนี้ก็คือปัญหาและอุปสัก อัตราเรามีแต่เราไม่สามารที่จะเอาคนเพื่อนำไปเทรนนิ่ง และเอาไปลงในอัตรานั้นได้เนื่องจากเราไม่มีงบในการฝึกอบรม อันนี้ต้องเป็นภาพรวมของนโยบายของ ตร. ที่จะต้องเอาไปชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการ ตร.อีกที่ ที่จะไปของบออกมา และที่สำคัญคดีเกี่ยวกับเรื่องออนไลน์ พวกฉ้อโกงออนไลน์ที่ สภ.บางแก้ว เยอะมากโลกออนไลน์มันไปเยอะมาก มันก็จะเป็นภาระที่จะตกแก่พนักงานสอบสวน ซึ่งที่นี้ก็มีการจัดพนักงานสอบสวนในการดูแลเกี่ยวกับเรื่องออนไลน์ไว้ แต่เมื่อคดีมันเยอะขึ้น 2 คนหรือ 3 คนก็ไม่พอ ซึ่งตรงนี้ก็อาจจะมีหน่วยและคนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติที่มีความรับผิดชอบตรงนี้ก็ต้องมาแบ่งเบา โดยแยกออกไปจากคดีต่าง ๆ เพื่อลดภาระให้แก่พนักงานสอบสวนในคดีอื่น ๆ ด้วย