นทท.แห่เที่ยวไทยช่วงสงกรานต์คึกคัก ทอท.เผย ยออดเพิ่มกว่าร้อยละ 65.97 หลัง ศบค.ผ่อนคลาย โควิด 19
จากกรณีท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเปิดพื้นที่ให้บริการเพิ่ม พร้อมประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องจัดกำลังคนเสริมเพื่อให้สอดคล้องกับจำนวนผู้โดยสารที่ใช้บริการเพิ่มมากขึ้น หลังศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด – 19 (ศบค.) ผ่อนคลายมาตรการการเดินทางเข้าราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อวันที่ 7 เมษายน 2565 นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า ภายหลังจาก ศบค. ได้ผ่อนคลายมาตรการการเดินทางเข้าราชอาณาจักร โดยยกเลิกการตรวจ RT-PCR ก่อนเดินทางเข้าประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 เป็นต้นมา ส่งผลให้มีจำนวนผู้โดยสารระหว่างประเทศเดินทางเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 11,623 คน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมที่มีจำนวนผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศเฉลี่ยวันละ 7,003 คน หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 65.97 ในส่วนของเที่ยวบินขาเข้าระหว่างประเทศมีจำนวนเฉลี่ยวันละ 141 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมที่มีจำนวนเที่ยวบินเฉลี่ยวันละ 137 เที่ยวบิน หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.92 ทั้งนี้คาดว่าจากนี้ไปจะมีผู้โดยสารระหว่างประเทศเดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายกิตติพงศ์ กล่าวต่อไปว่า เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก และเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการผู้โดยสาร ทสภ. ที่เพิ่มมากขึ้นให้ได้รับการบริการที่สะดวก รวดเร็ว ทสภ. จึงได้เปิดใช้งานอาคารเทียบเครื่องบิน C ซึ่งเป็นอาคารที่รองรับผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน ที่ผ่านมา จากเดิมที่เปิดให้บริการเฉพาะที่อาคารเทียบเครื่องบิน E, F และ G นอกจากนี้ ทสภ. ยังได้เปิดให้บริการจุดตรวจหนังสือเดินทางผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ โซน 1 ชั้น 2 อาคารผู้โดยสาร หลังจากปิดปรับปรุงในช่วงการแพร่ระบาดของโรค Covid -19 โดยจุดตรวจหนังสือเดินทางที่มีการปรับปรุงใหม่นี้ จะมีการปรับเปลี่ยนโฉมเคาน์เตอร์ให้ดูสวยงาม ทันสมัย มีการปรับผังพื้นที่การติดตั้งเคาน์เตอร์ใหม่ ทำให้มีจำนวนเคาน์เตอร์ให้บริการเพิ่มมากขึ้นเป็น 56 เคาน์เตอร์ ส่งผลให้ประสิทธิภาพการตรวจหนังสือเดินทางผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นจากเดิม 3,450 คนต่อชั่วโมง เป็น 4,080 คน ต่อชั่วโมง
นายกิตติพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับตัวเลขผู้โดยสารในภาพรวมทั้งภายในประเทศ และระหว่างประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา มีจำนวนผู้โดยสารเดินทางผ่านเข้า – ออก ทสภ. เฉลี่ยวันละ 53,627 คน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคม ที่มีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยวันละ 42,222 คน หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 27.01 โดยแบ่งเป็น ผู้โดยสารในประเทศเดินทางเฉลี่ยวันละ 29,691 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.45 และผู้โดยสารระหว่างประเทศ เดินทางเฉลี่ยวันละ 23,936 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 56.04 ในส่วนของเที่ยวบิน มีจำนวนเที่ยวบินเข้า – ออก ทสภ. เฉลี่ยวันละ 536 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากเดือนมีนาคมที่มีจำนวนเที่ยวบินเฉลี่ยวันละ 502 เที่ยวบิน หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.77 แบ่งเป็นเที่ยวบินในประเทศเฉลี่ยวันละ 254 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.43 และเที่ยวบินระหว่างประเทศเฉลี่ยวันละ 282 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.67 ดังนั้น ทสภ. จึงได้เตรียมการด้านบุคลากรโดยประสานการปฏิบัติร่วมกับ หน่วยงานราชการ สายการบิน ผู้ประกอบการ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการให้บริการ ณ ทสภ. ให้สอดคล้องกับปริมาณการจราจรทางอากาศที่เพิ่มขึ้น เพื่อให้การบริการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
นายกิตติพงศ์ กล่าวในตอนท้ายว่า ทสภ.ตระหนักถึงบทบาทการเป็นท่าอากาศยานหลักของประเทศ
ในการต้อนรับ และให้บริการผู้โดยสารทั้งในประเทศและระหว่างประเทศด้วยบริการที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ เป็นส่วนหนึ่งของภาครัฐในการร่วมฟื้นฟูเศรษฐกิจการท่องเที่ยวจากผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ซึ่งนอกจากการบริหารจัดการบริการที่สอดคล้องกับสถานการณ์แล้ว ทสภ. ได้ปรับรูปแบบการให้บริการให้สอดคล้องกับแนวคิดการเดินทางวิถีใหม่ (Transport New Normal) เป็นไปตามมาตรการด้านสาธารณสุข COVID – Free Setting อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ผู้โดยสารที่ต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้บริการ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ AOT Contact Center หมายเลขโทรศัพท์ 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง