กองทัพเรือจัดพิธีปล่อยเรือหลวงตาชัยลงน้ำ เสริมเขี้ยวเล็บด้านการลากจูงเรือทุกขนาด หากประสบอุบัติเหตุ

กองทัพเรือจัดพิธีปล่อยเรือหลวงตาชัยลงน้ำ เสริมเขี้ยวเล็บด้านการลากจูงเรือทุกขนาด หากประสบอุบัติเหตุหรือเครื่องยนต์ขัดข้อง เรือหลวงตาชัยรับหน้าที่สนับสนุนภารกิจ

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมา ที่อู่ต่อเรือ บริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ จำกัด (มหาชน) อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อม นางจตุพร ชมเชิงแพทย์ นายกสมาคมภริยาทหารเรือ ได้เดินทางมาเป็นประธานพิธีปล่อยเรือหลวงตาชัยลงน้ำ โดยเฉพาะ นางจตุพร ชมเชิงแพทย์ นายกสมาคมภริยาทหารเรือ ในฐานะสุภาพสตรีเป็นผู้ประกอบพิธีปล่อยเรือฯ

ภายในพิธีได้มี พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ พลเรือโทชาติชาย ทองสะอาด รองเสนาธิการทหารเรือ ในฐานะประธานคณะกรรมการบริหารโครงการจัดหาเรือลากจูงขนาดกลาง พลเรือตรีเสนอ เงินสลุง ผู้อำนวยการสำนักงานจัดหายุทโธปกรณ์ทหารเรือ พลเรือตรีสมบัติ แย้มดอนไพร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายผลิต อู่ทหารเรือพระจุลจอมเกล้า กรมอู่ทหารเรือ ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจรับพัสดุโครงการจัดหาเรือลากจูงขนาดกลาง และ นายสุรเดช ตัณฑ์ไพบูลย์ ประธานผู้บริหาร บริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ จำกัด (มหาชน) เจ้าของอู่ต่อเรือร่วมถึงข้าราชการทหารเรือทุกระดับชั้นยศร่วมให้การต้อนรับ

โดยผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะประธานได้จุดธูปเทียนประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนต์ โดยอาราธนาพระอาจารย์มหาราเชน ธัมมปาโล รักษาการเจ้าอาวาส วัดเอี่ยมประชามิตร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์

ต่อจากนั้นได้เวลาฤกษ์อันเป็นมหามงคล นางจตุพร ชมเชิงแพทย์ นายกสมาคมภริยาทหารเรือ ได้เปิดพิธีตัดเชือกปล่อยเรือหลวงตาชัยลงน้ำ จากนั้น ผู้บัญชาการทหารเรือ และสุภาพสตรีผู้ประกอบพิธีฯ ได้ลงนามในสมุดที่ระลึก ร่วมบันทึกภาพ และเยี่ยมชมนิทรรศการทางเรือ โดยมี นายสุรเดช ตัณฑ์ไพบูลย์ ประธานผู้บริหาร บริษัท เอเชียน มารีน เซอร์วิสส์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำเยี่ยมชมและบรรยายรายละเอียด จากนั้นคณะผู้บัญชาการทหารเรือจึงได้เดินทางกลับ เป็นการเสร็จพิธีปล่อยเรือต่อไป

ทั้งนี้คุณลักษณะของเรือหลวงตาชัยเป็นเรือลากจูงขนาดกลาง มีขนาด ความยาวตลอดลำ 31.50 เมตร ความกว้าง 12.60 เมตร ความลึกเรือ 5.40 เมตร กินน้ำลึก 4.50 เมตร ใช้ความเร็วสูงสุดที่ระวางขับน้ำเต็มที่ ไม่น้อยกว่า 12.1 นอต โดยกำลังของเครื่องยนต์ต้องไม่เกินร้อยละ 100 ของ MCR มีกำลังพลประจำเรือ 20 นาย

มีขีดความสามารถปฏิบัติการรบ โดยการสนับสนุนเข้าดึงและดันเรือขนาดใหญ่ของกองทัพเรือ และรวมไปถึงเรือดำน้ำของกองทัพเรือ ได้อย่างคล่องตัวปลอดภัย และสามารถเคลื่อนที่ไปทางข้างได้ โดยมีขีดความสามารถทางการลากจูง และเรือมีกำลังดึง ไม่น้อยกว่า 55 เมตริกตัน และสามารถขจัดคราบน้ำมันในทะเลอีกด้วย

• Facebook
• Twitter
• Line