ตำรวจวังน้อยช่วยคุณแม่ตามหาลูกสาววัย 7 ขวบ เหตุเพราะคุณแม่ ได้ลืมลูกสาวไว้ในปั้ม เพราะเข้าใจผิดคิดว่าลูกสาว ไม่ได้ลงไปจากรถยนต์ส่วนตัว

ตำรวจวังน้อยช่วยคุณแม่ตามหาลูกสาววัย 7 ขวบ เหตุเพราะคุณแม่ ได้ลืมลูกสาวไว้ในปั้ม เพราะเข้าใจผิดคิดว่าลูกสาว ไม่ได้ลงไปจากรถยนต์ส่วนตัว ที่จอดแวะในปั้มน้ำมัน ริมถนนพลโยธิน

เวลา 16.00 น. วันที่ 23 ก.พ.66 ศูนย์วิทยุ 191 ของ สภ.วังน้อย ได้รับแจ้งจากหญิงท่านหนึ่ง เป็นคุณแม่แจ้งว่าน่าจะลืมลูกสาววัยประมาณ 7 ขวบ ไว้ที่ปั้มน้ำมัน ปตท.วีอาร์ ถนนพหลโยธิน กม.78 เส้นทางขาเข้า กทม. เขต อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา และคุณแม่กำลังเร่งเดินทางกลับไปที่ป้ำน้ำมันดังกล่าวแล้ว หลังจากขับรถยนต์ส่วนตัวไปจนถึงเขต อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานีแล้ว

โดย ร.ต.ท.ภูวดล ธิมา และ จ.ส.ต.วิทยา นามวิเศษ 2 นายตำรวจสายตรวจประจำ สภ.วังน้อย ได้ไปที่ปั้มน้ำมัน และพบเด็กหญิงคนดังกล่าว ปลอดภัยดี และทางเจ้าหน้าที่ของปั้มน้ำมัน ได้ดูแลไว้เป็นอย่างดีเช่นกัน

โดยเมื่อแม่และลูกเจอหน้ากันหลังจากหลงกันไปเกือบ 1 ชม. ถึงกับโผกอกกัน และทุกคนก็ดีที่ได้ช่วยให้เด็กสู้อ้อมก่อนของแม่อีกครั้งอย่างปลอดภัย

โดยผู้เป็นแม่ขอบคุณทุกฝ่ายที่ช่วยเหลือ และให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ตนเองขับยนต์ส่วนตัวจากบ้านพัก อ.บ้านแท่น จ.ชัยภูมิ เพื่อจะไปทำธุระแถวถนนพระรามสาม กรุงเทพ ฯ พอเดินทางผ่านมาในเขต อ.วังน้อย ได้จอดรถแวะปั้ม เพื่อเข้าห้องน้ำ

โดยมีลูกสาว นอนเล่นโทรศัพท์อยู่เบาะลังคนขับ และตนเองได้ถามลูกสาวว่า จะเข้าห้องน้ำไหม ลูกสาวบอกว่าไม่เข้า เมื่อตนเองเข้าห้องน้ำเสร็จ กลับมาบนรถยนต์ ได้มองกระจกมองหลัง ก็เห็นผ้าห่มคลุมอยู่ ยังได้ยินเสียงโทรศัพท์เปิดเล่นอยู่ ก็เข้าใจว่าลูกสาวนอนคลุมโปงเล่นมือถืออยู่บนรถที่เบาะหลัง

ตนเองจึงได้ขับรถออกไป จากปั้มมุ่งหน้าเข้ากรุงเทพตามเดิม แต่เมื่อขับรถมาถึง อ.คลองหลวง จึงทราบว่าลูกสาวไม่ได้อยู่บนรถ ก็ตกใจมาก และได้รีบได้แจ้งเข้ามาที่ศูนย์วิทยุ สภ.วังน้อย เพื่อขอให้ตามหาลูกสาว และเจ้าหน้าที่สายตรวจ ทั้ง 2 นาย ได้เร่งเข้าตรวจสอบที่ปั๊มฯ ในทันที่ พบว่าลูกสาวอยู่ที่ปั๊มน้ำมัน ลูกสาวปลอดภัยดี ไม่ได้รับบาดเจ็บ หรืออัตรายใด

โดยตนเองจึงขอขอบคุณทุกฝ่าย และจะไม่พลาดแบบนี้อีก ต่อไปก่อนออกรถเดินทางต่อจะต้องตรวจสอบให้ดีว่า ลูกอยู่นรถหรือไม่ เพราะเราอาจจะไม่ทราบเลยว่าเด็กลงจากรถไปหรือไม่ หากไม่ตรวจสอบให้ดีเสียก่อน

ขอบคุณฐานข้อมูลจาก สภ.วังน้อย

#ทันอยุธยา / รายงาน

• Facebook
• Twitter
• Line