เมื่อบ่ายสองวันที่ 23 ก.พ. กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าตลาดนัดในวัดจันทร์ใน ซอยเจริญกรุง107 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กทม.ร่วม 100 คนนำโดยนางจีระพรรณ สุจิตรวัฒนสุข ได้ยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ พุทธมณฑลโดยมีนายวรพจน์ จอมศิริวัฒนา รักษาการ ผอ.สำนักพุทธฯเป็นผู้รับหนังสือร้องเรียน ทั้งนี้นางจีระพรรณ ในฐานะตัวแทนกลุ่มให้รายละเอียดว่า กลุ่มพ่อค้าแม่ค้าเช่าพื้นที่วัดจันทร์ในมานานกว่า 30 ปี ไม่เคยมีปัญหาใดๆ ทางวัดมีเมตตาให้ทำมาหากินอย่างปกติสุขและผู้ค้าจ่ายเงินค่าเช่าตามสัญญามาโดยตลอด
แต่มาล่าสุดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมาจู่ๆ ทางวัดได้ล็อกกุญแจประตูวัดห้ามพ่อค้าแม่ค้าเข้ามาขายของในวัดอย่างเด็ดขาด ทั้งที่ผู้ค้าได้ทำสัญญาอย่างถูกต้องกับเจ้าอาวาสรูปปัจจุบันนี้เป็นเวลา 3 ปี จ่ายค่าเช่าทุกเดือนๆ ละ 70,000 บาท โดยหมดสัญญาในปี 2568 หลังทำสัญญาผ่านไปไม่กี่เดือนปรากฏว่าทางวัดหักดิบห้ามขายของอย่างเด็ดขาด แถมยังมีแก๊งหัวโล้นและพวกนักเลงอันธพาลมาข่มขู่พ่อค้าแม่ค้าที่ทำเรื่องร้องเรียนหน่วยงานต่างๆ
จากการปิดตลาดอย่างกะทันหันทำให้พ่อค้าแม่ค้าต่างได้รับความเดือดร้อนเพราะบางคนต้องกู้เงินรายวันมาลงทุนค้าขาย ไม่มีเงินจ่ายในแต่ละวัน เงินให้ลูกหลานไปโรงเรียนต้องลดลงเพราะไม่มีรายได้เหมือนเดิม หลายคนเครียดแทบจะฆ่าตัวตายในแต่ละวัน อยากขอความเมตตาให้สำนักพุทธฯช่วยแก้ไขปัญหานี้ให้ชาวบ้านผู้หาเช้ากินค่ำด้วย อีกทั้งที่ผ่านมาเคยขอเจราจากับพระครูโสภณกิจานุกิจ เจ้าอาวาสมาหลายครั้งแต่ไม่เคยได้รับการตอบรับ พร้อมกันนี้ขอให้สำนักพุทธฯตรวจสอบบัญชีทรัพย์สินของวัดแห่งนี้ด้วยว่าโปร่งใสหรือไม่ และที่ผ่านมาทางผู้ค้าจ่ายเงินค่าเช่าให้วัดครบทุกเดือนๆละ 70,000 บาทไม่เคยขาด บางเดือนเจ้าอาวาสให้โอนเข้าบัญชี บางเดือนก็เอาเงินสดไปให้ต้องมานั่งนับเงินต่อหน้าก่อนส่งมอบ และทุกเดือนมีใบเสร็จอย่างถูกต้อง หลังรับหนังสือทางรักษาการ ผอ.สำนักพุทธฯ รับปากจะส่งเรื่องตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อช่วยเหลือผู้เดือดร้อนต่อไป
ต่อมาผู้สื่อข่าวสอบถามเรื่องนี้ผ่านทางโทรศัพท์กับพระครูโสภณฯอ้างว่าที่ผ่านมามาทางผู้เช่าจ่ายเงินค่าเช่า 20,000 บาทเท่านั้น แต่เรื่องนี้รายละเอียดอยู่ที่ทนายความยังให้รายละเอียดไม่ได้ อย่างไรก็ตามทางกลุ่มผู้ค้ามีหลักฐานยืนยันคือใบเสร็จที่จ่ายเงินครบทุกเดือนและทุกบาททุกสตางค์ซึ่งความคืบหน้าจะนำเสนอต่อไป