วันที่ 3 ตุลาคม 2566 สำนักงาน ป.ป.ส. จัดประชุมพิจารณากำหนดแนวทางการสืบสวนขยายผลและการยึดทรัพย์เครือข่ายการค้ายาเสพติด จากกรณีการจับกุมและตรวจยึดยาเสพติดที่จังหวัดนครปฐม ห้วงวันที่ 27 – 29 กันยายน ที่ผ่านมา โดยมี นายธนากร คัยนันท์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย นางสาววรวิจิตร ไชยเพิ่ม นักตรวจสอบภาษีชำนาญการพิเศษปฏิบัติหน้าที่นักตรวจสอบภาษีเชี่ยวชาญ กรมสรรพากร นายสุวิจักขณ์ ธรรมชัยพจน์ ผู้อำนวยการกองคดี 1 สำนักงาน ปปง. พันตำรวจเอก วิทัศน์ บริรักษ์ รองผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด 4 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด และพ.ต.อ ประสงค์ อานมณี รองผู้บังคับการ สายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง กว่า 30 นาย เข้าร่วม การประชุม ณ สำนักงาน ป.ป.ส.
ก่อนการประชุม นายธนากร คัยนันท์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. ในฐานะประธานการประชุม ร่วมด้วยนายมานะ ศิริพิทยาวัฒน์ รองเลขาธิการ ป.ป.ส. และนายอุดมชัย โลหณุต ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ส.กทม. แถลงข่าวถึงที่มาและความสำคัญของการจัดประชุมในครั้งนี้ และได้กล่าวว่า รัฐบาลภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี นายเศรษฐา ทวีสินประกาศให้ปัญหายาเสพติด เป็นวาระแห่งชาติที่ทุกหน่วยงานต้องแก้ไขอย่างจริงจังเพื่อให้ยาเสพติดลดลง โดยมีเป้าหมายสูงสุดคือ ให้ชุมชน/สังคม ปลอดภัยจากยาเสพติด และให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด เป็นเครื่องมือสำคัญในการปราบปรามทำลายยาเสพติดให้ถึงระดับโครงสร้างการค้ายาเสพติด ซึ่งจากการจับกุมยาเสพติดที่จังหวัดนครปฐม ที่ยึดยาบ้ารวมได้กว่า 22.07 ล้านเม็ด ไอซ์ 779 กิโลกรัม เฮโรอีน 167.23 กก. อีริมินไฟว์ หรือ ไฟว์ไฟว์ บรรจุแผง รวมจำนวน 98,000 เม็ด และแฮปปี้วอเตอร์ จำนวน 4,124 ซอง จับกุมผู้ต้องหา 4 ราย รถยนต์รวม 10 คัน
จากการจับกุมดังกล่าว พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้สั่งการให้ สำนักงาน ป.ป.ส. บูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานทางด้านการเงินอย่าง กรมสรรพากร และ ปปง. เพื่อสืบสวนขยายผลให้ถึงตัวนายทุนที่อยู่เบื้องหลัง พร้อมดำเนินมาตรการทางทรัพย์สินเพื่อจัดการกับเครือข่ายนักค้ายาเสพติดรายใหญ่นี้อย่างเด็ดขาด และเป็นที่มาของการจัดประชุมในครั้งนี้
สำนักงาน ป.ป.ส. และ บช.น. ได้สืบสวนและพบข้อมูลที่เชื่อมโยงถึงตัวนายทุนผู้สั่งการ โดยเกี่ยวข้องกับการจับกุมก่อนหน้านี้ที่ บก.สปพ. ได้จับกุมจำนวน 4 คดี ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี และ กรุงเทพฯ ตรวจยึด ยาบ้า ไอซ์ และคีตามีน โดยจากพฤติกรรมพบกลุ่มผู้ต้องหาจะเก็บยาเสพติดและกระจายยาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพและจังหวัดใกล้เคียงและมีการติดต่อผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ เพื่อนัดหมายส่งยาเสพติด
หน่วยงานที่เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ จะร่วมมือกันในการสืบสวนขยายผลคดีนี้เพื่อนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ และดำเนินการยึดทรัพย์สินตามมาตรการของรัฐบาล โดยเบื้องต้นได้ตรวจยึดทรัพย์สินจำนวน 24 รายการ เป็นรถยนต์ 12 คน เงินสดจำนวนหลายแสนบาท ที่ดิน 1 แปลง ทองรูปพรรณและเครื่องประดับอีกหลายรายการ รวมมูลค่าประมาณ 8 ล้านบาท
Admin
Recommended To You
