รองต่าย มอบผู้ช่วยสำราญ ตรวจเยี่ยมโรงพักบางยี่ขัน ซ้อมแผนเผชิญเหตุคลุ้มคลั่ง เสริมสร้างประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน
เมื่อวันที่ 28 ต.ค. ที่สน.บางยี่ขัน พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. มอบหมาย พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. ลงพื้นที่ตรวจสอบการปฏิบัติ Standard Operating Procedure หรือ SOP การเข้าระงับเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำหน้าที่สายตรวจ โดย พ.ต.อ.จารุวัตร สิงหศรีชัย ผกก.สน.บางยี่ขัน และ พ.ต.ท.ฐิติวุธ ร่อนแก้ว รอง ผกก.ป. สน.บางยี่ขัน และข้าราชการตำรวจในสังกัดต้อนรับ
โดยพ.ต.อ.จารุวัตร สิงหศรีชัย ผกก.สน.บางยี่ขัน และ พ.ต.ท.ฐิติวุธ ร่อนแก้ว รอง ผกก.ป. สน.บางยี่ขัน ได้บรรยายสรุปความพร้อมของหน่วย ในด้านวัสดุอุปกรณ์ เช่น อาวุธปืนวิทยุสื่อสาร เสื้อเกราะกันกระสุน กล้อง Body Camera อยู่สภาพพร้อมใช้งาน และมีการฝึกทบทวน ยุทธวิธีให้กับเจ้าที่ตำรวจในสถานีอย่างสม่ำเสมอ มีการจัดทำข้อมูลพื้นฐาน IPB ของสถานี เช่น กล้อง CCTV แหล่งท่องเที่ยว บริษัทนำเที่ยวป้ายรถประจำทาง เส้นทางเดินรถ วัด สถานศึกษา ท่ารถ ท่าเรือ การจัดทำแผนรองรับ ได้มีการจัดทำแผนเผชิญเหตุในสถานที่สำคัญในเขตพื้นที่ รับผิดชอบและประสานกับ โรงเรียน วัด ห้างสรรพสินค้าต่างๆ บริษัทรักษาความปลอดภัย เข้าไปบรรยายให้ความรู้ และซักซ้อมแผนการเผชิญเหตุ ให้แก่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย นักเรียน นักศึกษาเพื่อให้มีความพร้อมหากเกิดเหตุการณ์จริง รวมทั้งได้มีการติดป้ายประชาสัมพันธ์หมายเลขแจ้งเหตุฉุกเฉิน 191และ 1155 ไว้ตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ
ขณะเดียวกันทางพล.ต.ท.สำราญ ได้มีข้อสั่งการและข้อห่วงใย โดยให้ประชาสัมพันธ์ประชาชนบริเวณใกล้เคียงและสื่อมวลชน ทราบว่าจะมีการซักซ้อมเหตุการณ์เพื่อเตรียมความพร้อมในสถานการณ์ต่างๆ , พนักงานวิทยุของสถานีตำรวจและพนักงานรับโทรศัพท์ 191 ให้พิจารณาผู้ที่มีความรู้ความสามารถ มีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ที่จะสัมผัสกับประชาชน เพราะเป็นบุคลากรแรกที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ที่จะรับข้อมูล ชักถามให้ได้ข้อมูลให้ได้มากที่สุดตามหลัก LCAN เพื่อแจ้งเหตุต่อผู้บังคับบัญชาที่จะประเมินและสั่งการให้การปฏิบัติมีประสิทธิภาพ เกิดความปลอดภัยต่อการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ตำรวจและประชาชน มากที่สุด
ขณะเดียวกันให้ตระหนักไว้ว่าการฝึกคือ การทำให้เกิดความชำนาญในการใช้อาวุธ ทำให้เกิดความมั่นใจในการปฏิบัติ ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์จริงการปฏิบัติอาจมีความแตกต่างจากการฝึกซ้อม การตั้งวอรูม ต้องมีขึ้นเสมอ เพื่อเป็นศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า พร้อมทั้งตั้งจุดรวมพลที่จะให้รับฟังสรุปสถานการณ์ รวมทั้งการแบ่งมอบหน้าที่และพื้นที่รับผิดชอบให้ชัดเจน ให้ตั้งทีมฝ่ายกฎหมายทุกครั้งที่เกิดสถานการณ์ขึ้นเจ้าหน้าที่ทีมกฎหมายต้องไปอยู่ที่ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้าเพื่อให้ข้อมูลกับผู้บังคับบัญชา เกี่ยวกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการเข้าระงับเหตุในสถานการณ์นั้นๆ ถ้าสถานที่เกิดเหตุมีห้อง CCTV ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้ควบคุมและสั่งการจากห้องนั้นและให้พึงระมัดระวังการเข้าระงับเหตุ ว่ามีกล้องวงจรปิดบันทึกภาพอยู่หรือไม่ รวมทั้งภาพในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่/ ภาพผู้เสียหาย/ ผู้เสียชีวิต/ ผู้ต้องหา ที่จะออกไป
ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม พล.ต.ท .สำราญได้สุ่มตรวจอุปกรณ์ประจำกายของเจ้าหน้าที่ ตำรวจสายตรวจ ซึ่งครบถ้วนถูกต้อง และ สน.บางยี่ขัน ได้จำลองเหตุการณ์สมมุติคนคลุ้มคลั่งก่อเหตุ โดยการเข้าระงับเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ มีการสาธิตการติดต่อสื่อสาร การใช้อุปกรณ์ไม้ง่าม ตามยุทธวิธีการเข้าระงับเหตุ นอกจากนี้ในช่วงท้าย พล.ต.ท.สำราญได้กำหนดสถานการณ์สมมุติโดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้าเพื่อทำการทดสอบการแก้ไขสถานการณ์และการปฏิบัติ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สน.บางยี่ขัน ก็สามารถปฏิบัติเป็นไปตามหลักยุทธวิธีด้วยความเรียบร้อย ก่อนมอบสิ่งของบำรุงขวัญ ให้กำลังใจ คำแนะนำในการปฏิบัติ เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติต่อไป
พล.ต.ท.สำราญ กล่าวว่ส ตามนโยบายของพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. ที่เน้นย้ำให้ตำรวจ มีความพร้อมในการปฏิบัติงาน โดยการไปตรวจเยี่ยมในครั้งนี้ เพื่อเน้นย้ำให้การฝึกทบทวนทางยุทธวิธี และการปฏิบัติตามขั้นตอนการระงับเหตุคนคลุ้มคลั่ง (SOP) รวมทั้งการปฏิบัติในการป้องกันเหตุร้ายใช้อาวุธปืนกราดยิง
(Active Shooting) เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และการระงับเหตุของเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ
เป็นไปอย่างรวดเร็ว มีขั้นตอนการปฏิบัติในการเผชิญเหตุ และระงับเหตุอย่างถูกต้องตามหลักยุทธวิธี
และตามแนวทางที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนด