ท๊อป-ไทด์ ฉลองวันเกิดครบ 62 ปี ข้ามทะเลอันดามัน มอบทุนการศึกษา ถุงยังชีพ ให้ นร.ถิ่นทุรกันดานบนเกาะหาดทรายดำ ระนอง
วันที่ 27 พฤษภาคม 2567 เป็นวันคล้ายวันเกิดของ คุณบิณฑ์ บรรลือฤทธิ์ ผู้จัดการฝ่ายกิจกรรมพิเศษมูลนิธิร่วมกตัญญู, คุณเอกพัน บรรลือฤทธิ์ หัวหน้าอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ทางคุณบิณฑ์-คุณเอกพันธ์ พร้อมด้วยคอรบครัวบรรลือฤทธิ์ มูลนิธิร่วมกตัญญู นำโดย ดร.รัตนา สมสกุลรุ่งเรือง ประธานมูลนิธิร่วมกตัญญู, คุณสมศักดิ์ ปาลวัฒน์ ผู้จัดการมูลนิธิร่วมกตัญญู , คุณภาวิณี ปาลวัฒน์ รองผู้จัดการมูลนิธิฯ ต้น อธิวัฒน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รองหัวหน้าอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู คุณพรพิมล มั่นฤทัย ผู้บริหารบริษัทโคลีเซียม อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด ดารานักแสดงฝ่ายกิจกรรมพิเศษมูลนิธิ อาทิ เช่น โบ๊ท วิบูลย์นันท์ นุ้ย เกศริน เอกธวัชกุล ทับทิม อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์ ตลอดจนคณะกรรมการ เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางมาที่ จังหวัดระนอง เพื่อจัดกิจกรรมทำบุญ และมอบถุงยังชีพ ทุนการศึกษา ทุนอาหารกลางวัน ขนมและน้ำดื่ม โดยบรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้ามีการพาคณะไปทำบุญถวายสังฆทานแด่พระสงฆ์ที่วัด บ้านหงาว ในอำเภอเมืองระนอง เพื่อขอพรและเสริมความเป็นสิริมงคล จากนั้นได้เดินทางลานเอนกประสงค์ เทศบาลท่าฉาง เพื่อมอบทุนการศึกษา ถุงยังชีพ และเงินสดช่วยเหลือครอบครัวนักเรียน รวมถึงทุนอาหารกลางวัน โดยมี พระท่านเจ้าคุณอาจารย์พระเมธีวชิโรดม (ว.วชิรเมธี) เดินทางมาจากไร่เชิงตะวันจังหวัดเชียงราย มายังงานดังกล่าวเพื่อร่วมกิจกรรมและมอบของขวัญวันเกิดในทั้งสองซึ่งเป็นวัตถุมงคลเลี่ยมกรอบทองอย่างดี โดยคุณบิณฑ์ได้รับมอบเป็นพระแก้วมรกต ส่วนคุณไทด์เป็นเหรียญหลวงปู่ทวด บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักสนุกสนาน สร้างความดีใจให้กับเด็กๆและผู้ปกครอง จากนั้นช่วงบ่าสไปยังโรงเรียนบ้านหาดทรายดำ ซึ่งอยู่ในเกาะ จะต้องนั่งเรือจากฝั่งข้ามไป ซึ่งใช้เวลามาประมาณ 30 นาที เพื่อมอบทุนและถุงยังชีพ ซึ่งโรงเรียนและชุมชนแห่งนี้ไฟฟ้ายังเข้าไม่ถึง แต่อย่างใด สำหรับการจัดกิจกรรมในวันคล้ายวันเกิดปีนี้ทางด้านคุณบิณฑ เผยว่า มอบทุนนักเรียนที่เรียนดีแต่ยากจนทุนละ 2,000 บาท จำนวน 50 ทุน และมอบเงินให้นักเรียนคนละ500 บาทรวมกว่า 750 คน พร้อมกับถุงยังชีพ นอกจากนั้นยังมอบเงินเข้ามูลนิธิรพเด็กอีก 200,000 บาท อีกด้วย
คุณบิณฑ์-คุณเอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ เผยว่า เป็นกิจกรรมในวันคล้ายวันเกิดที่เราเองก็ยังไม่เคยทำแบบนี้ ทั้งลงเรือ เข้ามาในสถานที่ห่าไกล จริงๆแล้ว จ.ระนอง เป็นหนึ่งจังหวัดที่ผมคุ้นเคยมา 30 กว่าปีที่แล้ว เพราะเคยมาถ่ายหนังที่จ.ระนอง อยู่ประมาณ 3 เดือน ซึ่งหนังเรื่องนั้นก็เป็นหนังที่บริษัทโคลิเซียมสร้าง เมื่อก่อนเขาเรียกเขาหัวโล้น ซึ่งตอนนั้นเมื่อก่อนยังไม่ได้พัฒนาอะไรมาก คงความเป็นป่าดิบธรรมชาติ บ่อน้ำแร่ก็พึ่งจะขุดยังธรรมชาติ ที่เลือกมาจังหวัดนี้คือเรามาดูสถานที่ก่อน มีทั้ง รร.หาดทรายดำ แล้วก็ในตัวเมือง น้อง ๆ ก็ยังคงขาดบงอย่าง เราก็อยากมาช่วยเหลือดูแลน้อง ๆ ทั้งทุนการศึกษา ค่าอาหารกลางวันเด็กๆ เสื้อผ้า อุปกรณ์การกีฬา ทาง รร.จะได้ไม่ต้องไปซื้อ ซึ่งที่เราจัดมาไม่ใช่ปี หรือ 2 ปี เราจัดมา 30 กว่าปี ตั้งแต่เข้าวงการเมื่อปี พ.ศ. 2525 สิ่งหนึ่งที่เรารำลึกเสมอคือผู้ใหญ่ที่อยู่ในวงการ และคนที่มีพระคุณที่สุดก็คือประชาชน หากประชาชนไม่สนับสนุนเรา ไม่ดูหนังเรา ไม่ดูละครเรา มันก็หายไป ทุกวันนี้ที่ บิณฑ์-เอกพันธ์ ยังอยู่ในสายตาของพี่น้องประชาชน เพราะฉะนั้นการตอบแทนบุญคุณก็คือ เข้าไปถึงตัวของประชาชนเลย สำหรับพรปีนี้ก็ไม่ได้ขออะไรมากมาย ไม่ได้ขอเงินทอง แค่ขอให้ตัวเองสุขภาพแข็งแรงเหมือนทุกๆ ปี เพื่อจะอยู่ในปีต่อไปให้ได้ ถ้าผมอยู่ได้ ก็จะมีสิ่งดีๆเกิดขึ้นแบบนี้ตลอด ถ้าอยู่ไม่ได้แล้วผู้ป่วยติดเตียง หรือคนที่ยากลำบาก ก็อาจะสิ้นสุดลง แต่ถ้าเรายังยู่เราก็จะมอบแบบนี้ เราก็อธิษฐานตลอดว่าจะกี่ปีๆ ก็ขอให้สุขภาพแข็งแรง และขอให้พี่น้องประชาชนที่อยู่ห่างไกล ในถิ่นทุรกันดาน ขอให้พวกเราได้เข้าไปดูแลพวกเขาอย่างทั่วถึง สิ่งที่พวกเขาต้องการและเราได้เข้าไปมอบให้ เราเป็นผู้ให้ เขาเป็นผู้รับก็เป็นอะไรที่ดีจบอย่างสมบูรณ์ และก็ยังขอให้พี่ๆน้องอาสาของเราที่มาด้วยกัน ในทุกๆปี ก็ขอให้พวกเขาสุขภาพแข็งแรง ทำอะไรก็ขอให้เจริญรุ่งเรือง และสำหรับพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะมีเรื่องอะไรก็ตาม สามารถติดต่อมาได้ที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เพจของผม และเพจของคุณไทด์ หรือน้ายอด นคร45 ถ้าเดือดร้อนจริงๆเราจะไป ในส่วนของที่มีการลงหน้าแฟนเพจเรื่องของรพ.เด็ก ผมรู้สึกสงสารน้อง ๆ รพ.เด็กราชวิถี เพราะหมอคนนี้ผมติดต่อมาตลอด เขาเป็นหมอที่ดูแล เมื่อประมาณ 2-4 ปีทีแล้ว ผมก็หาเงินก้อนนึง ประมาณ 1 ล้านบาท ไปมอบแก่มูลนิธิเด็ก มาอีกปีก็ 7-8 แสนบาท แล้วก็จัดกิจกรรมปั่นจักรยานตรงอนุเสาวรีย์กันอีก 2 แสน เขาก็เอาเงินตรงนี้มารักษาเด็กๆ ที่รอยา บางคนเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเอง เพราะยาตัวนี้สั่งมาจากต่างประเทศ มันแพงมาก เพราะฉะนั้นทางมูลนิธิก็ต้องรองบจากรัฐบาล หากไม่มีงบมา เด็กก็ต้องใช้ยาตัวเดิมที่ไม่ได้มีการพัฒนาขึ้นกับการรักษา ก็แย่ลงหากได้ยาตัวนี้เขาก็จะดีขึ้น ผมก็บอกกับเขาว่าปีนี้วันเกิดผม ผมจะหาเงินให้ 1 ล้านบาทแล้วจะไปมอบให้ ส่วนตัวผม 2 แสนบาท คุณพรพิมลร่วม อีก 1 แสนบาท น้องหนุนาจากญี่ปุ่นมาอีก 1 แสนบาท และคุณพัดจากอเมริกาก็ให้มาอีก 1 แสนบาท ตอนนี้ก็ประมาณ 5 แสนบาทแล้ว ภายในเดือนพฤษภาคม ถ้าผมหาครบแล้วก็จะนไปมอบให้เลย ส่วนคุณไทด์ก็อยากจะวิ่งเพื่อช่วยกันหาสมทบให้น้อง ๆ แต่จะวิ่งวันไหนก็เดี๋ยวค่อยดูอีกที่