ชาวบ้านสมุทรปราการสุดทน! ตึกร้างกลางชุมชน กลายเป็นแหล่งมั่วสุม-กองขยะสูงเท่าตึก 2 ชั้น วอนหน่วยงานเร่งแก้ไข ก่อนเกิดเหตุร้าย

วิกฤตตึกร้างกลางชุมชนสมุทรปราการ กองขยะสูงเท่าตึก 2 ชั้น-คนเร่ร่อนมั่วสุม ชาวบ้านร้องหน่วยงานเร่งแก้ไข ก่อนเกิดเหตุไม่คาดฝัน

ชาวชุมชนนิยมเคหะ หมู่ที่ 4 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ต่างสะท้อนเสียงเดียวกันด้วยความอัดอั้นตันใจ หลังต้องเผชิญปัญหาตึกร้างกลางชุมชนที่ถูกทิ้งรกร้างมานานกว่า 10 ปี กลายเป็นแหล่งมั่วสุมของคนเร่ร่อน และกองขยะสูงเท่าตึกสองชั้น ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งทั่วพื้นที่ บางครั้งเกิดไฟไหม้จากพฤติกรรมของคนไร้บ้านที่เข้าไปอาศัย สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน โดยเฉพาะผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงที่อาศัยอยู่ใกล้เคียง

เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 10.00 น. ชาวบ้านราว 50 คน นำโดยนายอิทธิพัทธ์ ธีระวรรณสาร อดีตผู้อำนวยการโรงเรียนมหาภาพกระจาดทองอุปถัมภ์ ได้รวมตัวกันเพื่อเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว ก่อนที่สถานการณ์จะบานปลายจนเกิดเหตุร้ายแรงขึ้นในชุมชน

นายอิทธิพัทธ์ เปิดเผยว่า ตึกร้างดังกล่าวตั้งอยู่กลางชุมชน ในซอยศรีด่าน 3/5 เป็นโครงการหมู่บ้านที่ถูกทิ้งร้างมานานกว่า 10 ปี เนื่องจากเจ้าของโครงการประสบปัญหา ทำให้ไม่มีการต่อเติมหรือดูแลใดๆ จนกลายเป็นแหล่งเสื่อมโทรม มีคนเร่ร่อนเข้ามาพักอาศัย และมักก่อปัญหา เช่น จุดไฟเผาสายไฟเพื่อขายทองแดง ส่งผลให้เกิดกลิ่นเหม็นและไฟไหม้บ่อยครั้ง นอกจากนี้ ยังมีขยะกองสูงเท่าตึกสองชั้นที่ถูกนำมาทิ้งอย่างผิดกฎหมาย สร้างมลพิษและความเสี่ยงต่อสุขภาพของชาวบ้าน

ชาวบ้านเผย: “กลัวเกิดเหตุร้าย!” นางเพชร อายุ 55 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ กล่าวด้วยความกังวลว่า ตึกร้างนี้สร้างความเดือดร้อนให้กับชุมชนมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะด้านหลังตึกที่ติดกับบ้านของคนชราและผู้ป่วยติดเตียง ที่ต้องทนทุกข์จากกลิ่นเหม็นและมลพิษทางอากาศ นอกจากนี้ ถนนเส้นนี้ยังเป็นทางผ่านหลักของชุมชน ทำให้มีผู้คนสัญจรผ่านไปมาอยู่เสมอ และมักเกิดเหตุรำคาญ เช่น การปาขวดเบียร์ลงบนถนน จนทำให้รถยนต์ยางแตกไปหลายคัน

“เรากลัวว่า ถ้าหน่วยงานไม่เร่งแก้ไข วันหนึ่งอาจเกิดเหตุร้าย เช่น การลักขโมย ฆ่าข่มขืน หรือเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันขึ้นในชุมชน” นางเพชรกล่าว

เทศบาลชี้: “มีข้อจำกัดตามกฎหมาย”
ด้านนายไพศาล วีรชาติวัฒนา นายกเทศมนตรีตำบลด่านสำโรง ระบุว่า เทศบาลฯ ได้รับทราบปัญหานี้และพยายามประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากตึกร้างและกองขยะดังกล่าวตั้งอยู่บนที่ดินเอกชน ทำให้เทศบาลมีข้อจำกัดในการดำเนินการตามกฎหมาย

“เราต้องทำตามระเบียบที่กฎหมายกำหนด เทศบาลไม่สามารถเข้าไปจัดการได้เต็มที่ แต่เราจะพยายามหาทางออกให้กับชาวบ้านให้เร็วที่สุด” นายไพศาลกล่าว

ชาวบ้านรวมตัวเรียกร้อง หวังสื่อเป็นกระบอกเสียง หลังการประชุม ชาวบ้านได้นำผู้สื่อข่าวไปสำรวจพื้นที่เกิดเหตุ พบว่ายังมีคนเร่ร่อนอาศัยอยู่ในตึกร้าง และมีขยะกองสูงเท่าตึกสองชั้น พร้อมร่องรอยไฟไหม้กระจายทั่วพื้นที่ ชาวบ้านหวังว่าการออกมาเรียกร้องครั้งนี้ จะเป็นแรงผลักดันให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ก่อนที่สถานการณ์จะเลวร้ายจนควบคุมไม่อยู่

ปัญหานี้จะถูกแก้ไขเมื่อไหร่? ขณะที่ชาวบ้านยังคงเฝ้ารอความคืบหน้า จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลายคนตั้งคำถามว่า ปัญหาที่สะสมมานานกว่า 10 ปีนี้ จะได้รับการแก้ไขเมื่อไหร่ และจะต้องเกิดเหตุร้ายแรงแค่ไหน กว่าที่ทุกฝ่ายจะตื่นตัวและลงมือจัดการอย่างจริงจัง

• Facebook
• Twitter
• Line