สังคมท้องถิ่น

รมช.อิทธิ หนุนสร้างความเข้มแข็งองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น มุ่งบริหารจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน

%e0%b8%a3%e0%b8%a1%e0%b8%8a-%e0%b8%ad%e0%b8%b4%e0%b8%97%e0%b8%98%e0%b8%b4-%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b8%b8%e0%b8%99%e0%b8%aa%e0%b8%a3%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%87%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b9%80

นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมชาวประมงในพื้นที่อำเภอสัตหีบ โดยมี นายภูผา ลิกค์ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นางสาวอิงอร ปัญญากิจ ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายประเทศ ซอรักษ์ รองอธิบดีกรมประมง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ ศาลาการเปรียญ วัดช่องแสมสาร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมประมง ได้ดำเนินการจัดตั้งองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมการรวมกลุ่มของชาวประมงและการบริหารจัดการทรัพยากรอย่างยั่งยืน รวมถึงสร้างการรับรู้ เพื่อชี้แจงกฎหมายและแนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำอย่างยั่งยืนให้แก่เกษตรกร อีกทั้งยังสนับสนุนวัสดุอุปกรณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วยลดต้นทุนและส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชนประมงพื้นบ้านด้วย

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  กล่าวว่า กรมประมงได้ผลักดันให้มีการออกประกาศ 2 ฉบับ เรื่องการออกหนังสือคนประจำเรือ (Seabook) ให้สามารถขอได้ตลอดทั้งปี จากเดิมจะเปิดให้ทำปีละ 2 ครั้ง  เพื่อเป็นแนวทางในการช่วยแก้ปัญหาการขาดแคลนแรงงานที่ทำงานบนเรือประมง ช่วยให้ผู้ประกอบการประมงสามารถทำประมงได้อย่างไม่ติดขัด และยังเป็นการช่วยป้องกันการใช้แรงงานผิดกฎหมาย โดยการขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าวให้ถูกต้องทำให้แรงงานต่างด้าวได้รับการคุ้มครองและสวัสดิการตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งขณะนี้ได้มีการชี้แจงประชาสัมพันธ์ให้เจ้าของเรือได้ทราบในขั้นตอนการดำเนินการตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ฯ ในช่องทางต่าง ๆ แล้ว และในกรณีของแรงงานที่มีหนังสือคนประจำเรือ ตามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางด้านแรงงาน ที่จะหมดอายุในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 คณะรัฐมนตรีได้มีการขยายอายุอัตโนมัติ 6 เดือน ทั่วประเทศ ตามประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวทำงานในราชอาณาจักรเป็นการเฉพาะสำหรับคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม ซึ่งได้รับอนุญาตให้ทำงานถึงวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 (ฉบับที่ 3)

ในโอกาสนี้ รมช.อิทธิ ได้มีการมอบถุงยังชีพจำนวน 500 ชุด เอกสารข้อกฎหมายที่สำคัญ 200 ฉบับ เพื่อประชาสัมพันธ์สร้างองค์ความรู้ให้กับเกษตรกรชาวประมงที่มาร่วมงาน พร้อมทั้งเยี่ยมชมคลินิกให้บริการชาวประมง ซึ่งถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อให้ความรู้กับชาวประมงเกี่ยวกับข้อกฎหมาย หรือประกาศกำหนดมาตรการต่าง ๆ เช่น การดำเนินการต่ออายุหนังสือคนประจำเรือที่จะหมดอายุในวันที่13 กุมภาพันธ์ 2568 การใช้แผนที่ google map ตามประกาศฯ ต่าง ๆ การแก้ไขเครื่องมือทำการประมงประมงพาณิชย์ที่ได้รับอนุญาตให้ใช้ทำการประมงอีกด้วย      

ทั้งนี้ จังหวัดชลบุรี มีเรือประมงพื้นบ้าน จำนวน 2,948 ลำ เรือประมงพาณิชย์ จำนวน 321 ลำ ท่าเทียบเรือประมงสำหรับขนถ่ายสัตว์น้ำ จำนวน 23 แห่ง อีกทั้งยังมีเรือประมงพาณิชย์จากจังหวัดอื่น ๆ มาขนถ่ายสัตว์น้ำผ่านท่าเทียบเรือ ในพื้นที่อำเภอสัตหีบ และขนส่งไปจำหน่ายตามแพปลาต่าง ๆ โดยมีปริมาณสัตว์น้ำจากเรือประมงพาณิชย์ จำนวน 67,945 ตัน มูลค่า 51,007,400 บาท ปริมาณจับสัตว์น้ำจากการทำประมงพื้นบ้านจำนวน 11,651 ตัน มูลค่า 74,024,532 บาท สัตว์น้ำเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ปูม้า กุ้งกุลาดำ กุ้งแชบ๊วย หมึกหอม หมึกกล้วย ปลาอินทรีย์ และปลาทรายแดง เป็นต้น

0 Comments
Share

Admin

Reply your comment

Your email address will not be published. Required fields are marked*