สมาคมผู้สื่อข่าวจังหวัดสมุทรปราการ ร่วมแสดงมุทิตาสักการะท่านเจ้าคุณแจ้ เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง

เมื่อวันที่ 24 พ.ค.68 เวลา 10.00 น. นายคเณศ (อ.เลิศ) กมลพันธ์ นายกสมาคมผู้สื่อข่าวจังหวัดสมุทรปราการพร้อมคณะที่ปรึกษา คณะกรรมการ และสมาชิกสมาคมฯได้ร่วมกันไปแสดงมุทิตาสักการะแสดงความยินดีแก่พระครูปลัดสุวัฒน์ศีลคุณ (พระครูแจ้) ดร.เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลางต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ. สมุทรปราการ ในโอกาสที่ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดพระราชทานตั้งสมณศักดิ์เป็นพระวชิรคณาทร (จรูญ ฐานธมฺโม) ท่านเจ้าคุณแจ้ โดยเมี่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ท่านพลเอกกัมปนาท รุดดิษฐ์องคมนตรีอัญเชิญสัญญาบัตรพัดยศและผ้าไตรถวายแด่พระวชิระคณาทร(จรูญ ฐานธมโม)ท่านเจ้าคุณแจ้ ณ อุโบสถวัดบางพลีใหญ่กลาง โดยมีนายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ พร้อม หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารส่วนท้องถิ่น คณะไวยาวัจกร บุคลากรทางการศึกษา บุคลากรทางการแพทย์ ทหาร ตำรวจ และพุทธศาสนิกชน เข้าร่วมพิธีถวายสักการะแสดงความยินดีเป็นจำนวนมาก




สำหรับประวัติพระวชิรคณาทร (จรูญ ฐานธมฺโม) เดิมชื่อ จรูญ หมอเมือง เกิด เมื่อวันพุธที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2505 บิดาชื่อนายอรุณ หมอเมือง (ถึงแก่กรรม) มารดาชื่อ นางปา หมอเมือง มีพี่น้องทั้งหมด 5 คน เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2518อายุ 13 ปีได้บรรพชาเป็นสามเณร และวันที่ 3 มกราคม 2525 อายุ ครบ20 ปีได้เข้าอุปสม ได้ฉายาว่าฐานธมฺโม ณ วัดบางพลีใหญ่กลาง สอบได้นักธรรม ชั้นเอก ตั้งแต่ยังเป็นสามเณรอยู่ในความอุปการะของสมภาร (อาจารย์เหมือน) พ.ศ. 2530 ได้สมณศักดิ์ ฐานานุกรมที่ พระครูสมุห์จรูญ พ.ศ. 2535 ได้เลื่อนสมศักดิ์ ฐานานุกรมที่ พระครูปลัดจรูญ ฐานธมฺโม วันที่ 5 ธันวาคม 2550 ได้เลื่อนสมศักดิ์ ฐานานุกรมที่ พระครูปลัดรัตนวัฒน์ รองเจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง รักษาการเจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง ดำรงตำแหน่งเป็น เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลาง จนปัจจุบัน เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ พระราชทินนาม พระวชิรคณาทร (จรูญ ฐานธมฺโม) ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาท่านได้บำเพ็ญเพียรทนุบำรุงพระพุทธศาสนาอย่างดีมาโดยตลอด ได้พัฒนาวัดบางพลีใหญ่กลาง จนมีความเจริญรุ่งเรืองเป็นที่รู้จักเป็นที่ศรัทธาของพุทธศาสนิกชนทั่วไป อีกทั้งยังได้ช่วยเหลือดูแล มอบเงินสนับสนุนสร้างโรงเรียน สร้างโรงพยาบาล สถานีตำรวจหลาย พร้อมช่วยดูแลด้านสังคมช่วยเหลือคนยากไร้ โดยเฉพาะในช่วงระบาดของโรคโควิด19.ที่ผ่านมา ท่านได้อุทิศตนจัดตั้งโรงทาน ดูแลผู้ป่วยติดเตียงพร้อมจัดถุงยังชีพและมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยตกทุกข์ได้ยากหลายแห่งทั่วจังหวัด และจากการที่ท่านได้อุทิศตน ทนุบำรุงพระพุทธศาสนาและเมตตาช่วยเหลือประชาชนผู้ยากไร้มาโดยตลอดท่านจึงได้รับขนานนามจากประชาชนทั่วไปว่า “พระครูแจ้ พระผู้มีแต่ให้”สมเป็นพระนักพัฒนาตัวอย่างที่เหล่าบรรดาพุทธสาธนิกชนต่างกราบไหว้เคารพบูชาได้อย่างสนิทใจ




