ข่าวประชาสัมพันธ์

ทำไมผู้สูงอายุถึงเสี่ยง “รากฟันผุ” มากกว่าคนทั่วไป

%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b9%84%e0%b8%a1%e0%b8%9c%e0%b8%b9%e0%b9%89%e0%b8%aa%e0%b8%b9%e0%b8%87%e0%b8%ad%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b8%b8%e0%b8%96%e0%b8%b6%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%aa%e0%b8%b5%e0%b9%88%e0%b8%a2

เมื่อพูดถึง “ฟันผุ” หลายคนอาจนึกถึงเพียงรูผุบนผิวฟันด้านบน แต่ในความเป็นจริง “รากฟันผุ” (Root Caries) ก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาสำคัญที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ และมักตรวจพบในระยะลุกลาม เนื่องจากไม่มีอาการในระยะแรก

การผุบริเวณรากฟันอาจส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุอย่างมีนัยสำคัญ เช่น การเคี้ยวอาหารไม่สะดวก การติดเชื้อในช่องปาก และปัญหาสุขภาพอื่นๆ ที่ตามมา ดังนั้นการรู้เท่าทันจึงเป็นสิ่งจำเป็น

ปัจจัยที่ทำให้ผู้สูงอายุมีความเสี่ยงรากฟันผุ
1.เหงือกร่นตามวัย
เมื่ออายุมากขึ้น เหงือกมักร่นลงจนเห็นบริเวณรากฟัน ซึ่งเป็นส่วนที่ไม่มีชั้นเคลือบฟัน (enamel) ปกป้องเหมือนตัวฟันด้านบน จึงทำให้เชื้อแบคทีเรียสามารถเกาะและสร้างกรดกัดกร่อนรากฟันได้ง่ายขึ้น
2.ปริมาณน้ำลายลดลงจากวัยหรือการใช้ยา
น้ำลายมีบทบาทสำคัญในการชะล้างคราบอาหารและแบคทีเรีย ผู้สูงอายุที่มีปัญหาน้ำลายน้อยจากการใช้ยาหลายชนิด เช่น ยาความดันโลหิต ยาเบาหวาน ยานอนหลับ หรือยาต้านซึมเศร้า จะยิ่งเสี่ยงต่อการเกิดฟันผุมากขึ้น
3.การดูแลสุขภาพช่องปากที่ลดลง
ผู้สูงอายุบางรายอาจมีข้อจำกัดด้านร่างกาย เช่น มือสั่น กล้ามเนื้ออ่อนแรง หรือความจำเสื่อม ทำให้การแปรงฟันหรือทำความสะอาดฟันไม่ทั่วถึง จึงเพิ่มความเสี่ยงในการสะสมของแบคทีเรียและการเกิดฟันผุ

สัญญาณเตือนของ “รากฟันผุ”

  • ปวดหรือเสียวฟัน เมื่อรับประทานอาหารร้อนหรือเย็น โดยเฉพาะบริเวณโคนฟัน
  • มีจุดสีคล้ำหรือโพรงเล็กๆ บริเวณรอยต่อระหว่างเหงือกกับฟัน
  • มีกลิ่นปากเรื้อรัง แม้จะแปรงฟันหรือใช้น้ำยาบ้วนปากเป็นประจำ
  • ฟันโยกหรือไม่มั่นคง รู้สึกเจ็บหรือไม่สบายเวลารับประทานอาหาร
  • มีเศษอาหารติดซ้ำๆ บริเวณเดิม เช่น ร่องระหว่างฟันหรือใกล้เหงือก

หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบพบทันตแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด
แนวทางการป้องกันรากฟันผุในผู้สูงอายุ

  • หากพบอาการเหล่านี้ ควรรีบพบทันตแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด
  • แนวทางการป้องกันรากฟันผุในผู้สูงอายุ
  • แปรงฟันอย่างถูกวิธีวันละ 2 ครั้ง โดยใช้แปรงขนนุ่มและยาสีฟันผสมฟลูออไรด์
  • แปรงบริเวณคอฟันเบาๆ เพื่อไม่ให้เหงือกร่นเพิ่ม
  • ใช้ไหมขัดฟันหรือแปรงซอกฟันเป็นประจำทุกวัน
  • บ้วนปากด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อหลังมื้ออาหาร
  • พบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและขูดหินปูน
  • ดูแลฟันปลอมให้สะอาดอยู่เสมอ โดยถอดล้างหลังมื้ออาหาร และแปรงฟันปลอมก่อนนอน
  • กระตุ้นการหลั่งน้ำลาย โดยการดื่มน้ำบ่อยๆ หรือเคี้ยวหมากฝรั่งปราศจากน้ำตา

ข้อควรรู้เพิ่มเติม
• การเคลือบฟลูออไรด์เฉพาะที่ (Fluoride varnish) โดยทันตแพทย์สามารถช่วยป้องกันรากฟันผุได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง เช่น ลูกอม น้ำอัดลม และขนมหวาน
• หากมีโรคประจำตัวหรือรับประทานยาหลายชนิด ควรแจ้งทันตแพทย์ทุกครั้งก่อนรับการรักษา

ทพญ.นันทศิริ กาญจนปทุม
ทันตแพทย์ด้านฟันปลอมและรากฟันเทียม แผนกทันตกรรม โรงพยาบาลบางปะกอกสมุทรปราการ โทร. 0-2109-3222 ต่อ 10310-10311

0 Comments
Share

Admin

Reply your comment

Your email address will not be published. Required fields are marked*