สังคมท้องถิ่น

ประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีนฯ “นายพินิจ จารุสมบัติ” เปิดงานสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ครบรอบ 50 ปียิ่งใหญ่

%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%98%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%aa%e0%b8%a0%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%92%e0%b8%99%e0%b8%98%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%a1%e0%b9%84%e0%b8%97%e0%b8%a2-%e0%b8%88%e0%b8%b5

เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2568 ที่อาคารโรงยิมเฉลิมพระเกียรติ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒฝ่ายมัธยม ผศ.ดร.ประภาภรณ์ โรจน์ศิริรัตน์ รองอธิการบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร ได้ให้การต้อนรับคณะ นายพินิจ จารุสมบัติ ประธานสภาวัฒนธรรมไทย-จีนและส่งเสริมความสัมพันธุ์ ที่ได้เดินทางมาเป็นประธานพิธีงานสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ครบรอบ 50 ปี ภายใต้โครงการมหกรรมสายสัมพันธ์ไทย-จีน ตามที่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศจีน ณ กรุงเทพฯ รวมกับคณะศิลปกรรมศาสตร์ และคณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตรเป็นผู้จัดขึ้น

ภายในงานได้มีบุคลาการทางการศึกษา คณะครู-นักเรียน โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ และคณาจารย์ นิสิต นักศึกษาจากวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร เข้าร่วมกิจกรรม

โดยกิจกรรมพิธี ได้จัดให้มีการแสดงความสามารถของคณะนักศึกษานาฎศิลป์ไทยร่วมสมัย “COLORS OF SIAM” จากคณะศิลปกรรมศาสตร มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ รวมถึงการแสดงระบำกลุ่มหญิงชาวเผ่าเซอ จากวิทยาลัยศิลปาชีพเจ้อเจียง สาธารณรัฐประชาชนจีน

ด้าน ผศ.ดร.ประภาภรณ์ โรจน์ศิริรัตน์ รองอธิการบดีฝ่ายวิเทศสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร กล่าวว่า โครงการมหกรรมสายสัมพันธ์ไทย–จีน วาระสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย–จีน ครบรอบ 50 ปีในวันนี้ นับว่าเป็นความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างราชอาณาจักรไทยและสาธารณรัฐ ประชาชนจีน ที่ได้ดำ เนินมาอย่างยาวนานและมั่นคง โดยเฉพาะในมิติทางการศึกษา ศิลปวัฒนธรรม และการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ซึ่งมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ในฐานะสถาบันการศึกษามีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือดังกล่าวอย่างต่อเนื่องยาวนาน ซึ่งกิจกรรมภายในโครงการนี้ ครอบคลุมทั้งการอบรมเชิงปฏิบัติการ ทางดนตรี นาฏศิลป์ และศิลปะการวาดภาพพู่กันจีน พร้อมการจัดนิทรรศการ ทางศิลปะ การแสดงศิลปวัฒนธรรมไทย-จีน และการประกวดการพูด ภาษาจีน ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ซึ่งสะท้อนถึงการบูรณาการความรู้ด้านภาษา ศิลปะ และวัฒนธรรมเพื่อเสริมสร้างวิสัยทัศน์ระดับนานาชาติในบริบทของสถาบันอุดมศึกษาในครั้งนี้ นับเป็นโอกาสอันสำคัญในการเปิดพื้นที่ให้กับ คณาจารย์นิสิตและนักเรียนได้แสดงออกทางวิชาการ ภาษา ศิลปวัฒนธรรมและการสร้างสรรค์ อีกทั้งยังเป็นการเสริมสร้างความเข้าใจ อันดีและความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นยาวนานต่อไป

0 Comments
Share

Admin

Reply your comment

Your email address will not be published. Required fields are marked*