จ.สมุทรปราการ เตรียมจัดงานแสงเสียงสื่อผสมในรูปแบบมิวสิคัลรำลึกเหตุการณ์ ร.ศ. 112 เข้าฟรีที่ป้อมพระจุลจอมเกล้า

วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 ที่ห้องนิทรรศการ ป้อมพระจุลจอมเกล้า ต.แหลมฟ้าผ่า อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรปราการนำโดย นายสุนทร ปานแสงทอง นายก อบจ. ร่วมกับจังหวัดสมุทรปราการ และกองทัพเรือร่วม แถลงข่าวเตรียมจัดงานแสดง “แสงเสียงสื่อผสมในรูปแบบมิวสิคัลรำลึกเหตุการณ์ ร.ศ.112” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ของจังหวัดสมุทรปราการ




ภายในงานมี นายประทีป นทีทวีวัฒน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ ได้รับมอบหมายจาก นายศุภมิตร ชิณศรี ผู้ว่าราชการจังหวัด มาเป็นประธานเปิดร่วมกับผู้แทนกองทัพเรือ และองค์การบริหารส่วนจังหวัด
สำหรับการแถลงข่าวโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสมุทรปราการทางด้านประวัติศาสตร์ “การแสดงแสงเสียงสื่อผสมในรูปแบบมิวสิคัล รำลึกเหตุการณ์ ร.ศ. 112 ตอน ปราการพระจุล จารึกคุณมหาราช ร.ศ.112 กำหนดจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 13-16 มีนาคม 2568 ณ ป้อมพระจุลจอมเกล้า เพื่อส่งเสริมและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวทางด้านประวัติศาสตร์ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย แก่นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ และเพื่อเทิดพระเกียรติและน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวและสถาบันพระมหากษัตริย์ที่มีต่อประเทศชาติและพสกนิกรชาวไทย รวมถึงเพื่อสร้างรายได้แก่ประชาชนกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมของจังหวัดสมุทรปราการ ผู้สนใจสามารถสำรองที่นั่ง ได้ที่ LINE OA: ปราการพระจุล ร.ศ.112 (https://lin.ee/kjv9Wiq)เข้าชมฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย โดยผู้เข้าจะพบกับเหล่านักแสดง อาทิเช่น คุณปุ๊ มนตรี, คุณตั๊ก นภัสรัญชน์, คุณวิทย์ พชรพล,และนักแสดงอื่นอีกมากมาย




ทั้งนี้ จังหวัดสมุทรปราการ หรือ เมืองปากน้ำเป็นเมืองหน้าด่านที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ หนึ่งในเหตุการณ์สำคัญที่อยู่ในความทรงจำของชาวไทยคือ วิกฤตการณ์ ร.ศ.112 การสู้รบกับฝรั่งเศสที่ป้อมพระจุลจอมเกล้า และป้อมผีเสื้อสมุทร ซึ่งแม้จะมีความสูญเสียแต่ด้วยพระปรีชาสามารถของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และความกล้าหาญเสียสละของบรรพบุรุษไทยทำให้ชาติไทยสามารถธำรงเอกราชไว้ได้อย่างสง่างาม เหตุการณ์ ร.ศ.112 ตรงกับปีพุทธศักราช 2436 ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยในช่วงนั้นชาติตะวันตกได้เข้ามามีอิทธิพลสำคัญทางแถบเอเชีย โดยมีจุดประสงค์ที่สำคัญ คือการแสวงหาอาณานิคม ประเทศต่างๆ เช่น ญวน เขมร ลาว ตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส ส่วนพม่าและมลายูตกเป็นอาณานิคมของอังกฤษ สำหรับประเทศไทย ได้ถูกชาติมหาอำนาจอย่างฝรั่งเศสเข้ามารุกราน โดยในวันที่ 13 กรกฎาคม พุทธศักราช 2436 เรือรบฝรั่งเศส 2 ลำ คือเรือสลุปแองคองสตังค์ และเรือปืนโคแมต ได้รุกล้ำสันดอนปากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้ามายังกรุงเทพฯ และได้เกิดการปะทะกับฝ่ายไทย ผลปรากฏว่า เรือแองคองสตังต์ และเรือโคแมต ที่ได้รับความเสียหายบางส่วน สามารถตีฝ่าแนวป้องกันที่ปากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้ามาได้จนถึงกรุงเทพฯ และเทียบท่าอยู่ที่หน้าสถานทูตฝรั่งเศส โดยมีทหารประจำเรือเสียชีวิตรวม 3 นาย และเรือนำร่องถูกยิงเกยตื้นอยู่ริมฝั่ง ส่วนฝ่ายไทยเรือที่ได้รับความเสียหายจากกระสุนปืนใหญ่จากฝ่ายตรงข้าม จำนวน 4 ลำ ภายหลังเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุให้ไทยเราต้องเสียดินแดนบางส่วนแก่ฝรั่งเศสชดใช้ค่าปรับสงคราม เพื่อแลกเปลี่ยนกับการดำรงไว้ซึ่งเอกราช