
เมื่อ15.00 น.วันที่ 23. ก.ค.68 ที่ ห้องประชุมชั้น 5 สภ.เมืองสมุททรปราการ ภายใต้อำนวยการ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.ภัคพงศ์ สายอุบล ผบก.อก.ภ.1. พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผบก.ก.จว.สมุทรปราการ, พ.ต.อ.จักรกฤช ศรีโรจนากูร ผกก.สภ.เมืองสมุททรปราการ แถลงชุดสืบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ จับกุมแก๊งชาวเขมร 16 คน ลักลอบเปิดสำนักงานรับซื้อบัญชีม้าส่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามแดน พร้อมของกลาง พร้อมของกลาง สมุดบัญชีเงินฝาก จำนวน 54 เล่ม, บัตร atm จำนวน 20 ใบ, โทรศัพท์จำนวน 17 เครื่อง, ซิมการ์ดจำนวน 7 อัน, เงินสดจำนวน101.200 บาท, อาวุธปืนพกสั้นกึ่งอัตโนมัติ จำนวน 3กระบอก, กระสุนปืนขนาด 380 มม. รวม 36 นัด และ เอกสารหนังสือเดินทาง 17 เล่ม, เอกสารสำเนาการเปิดบัญชี, กล่องโทรศัพท์ และซองซิมการ์ดอีกจำนวนมาก






เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาในฐานความผิด ข้อหา “ร่วมกันเป็นธุระจัดหา โฆษณา หรือไขข่าวโดยประการใด ๆ เพื่อให้มีการซื้อ ขาย ให้เช่า หรือให้ยืมบัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือความผิดทางอาญาอื่นใด” สำหรับผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มข้อหา “มีอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน” และอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยจับกุมได้ที่บ้านเช่าเลขที่ 989/4 หมู่บ้านบางปูวิลล่า 2 ม.7 ต.ท้ายบ้านใหม่อ.เมืองสมุทรปราการ จว.สมุทรปราการ
พล.ต.ต.วิชิต. กล่าวว่าพฤติการณ์ในคดี จากการสืบสวนทราบว่า นาย LENG SENG (ผู้ต้องหาที่ 1 ) ลักลอบซื้อบัญชีจากชาวกัมพูชา ผ่าน Facebook ชื่อ “Bro Makara” และการบอกต่อๆกัน ในราคา 8,000-15,000 บาท แลกกับสมุดบัญชีธนาคาร, บัตร ATM, ขิมโทรศัพท์ และสำเนาหน้าหนังสือเดินทาง และมีเครือข่ายชาวกัมพูชาร่วมในการกระทำความผิดจำนวนมาก ซึ่งอาศัยอยู่ที่ บ้านเลขที่ 989/4 หมู่บ้านบางปูวิลล่า 2 จึงเข้าจับกุม พบผู้ต้องหาทั้งหมดรวมตัวอยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว พร้อมของกลาง สมุดบัญชีเงินฝาก 7 เล่ม, อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ชนิดกึ่งอัตโนมัติ 1 กระบอก กระสุนขนขนาด 38 จำนวน 19 นัด และเอกสารสำเนาการเปิดบัญชี, กล่องโทรศัพท์ และซองซิมการ์ดหลายรายการ และเงินสดกว่า 1 แสนบาท






จึงทำการขยายผลภายในห้องเช่าเลขที่ 308 ชั้น 3 ชอยโรงงานฝอกหนัง กม.30 ชต.ท้ายบ้าน ของ นาย CHHOEURN CHHETH (ผู้ต้องหาที่ 2) พบ อาวุธปินไทยประดิษฐ์ ชนิดกึ่งอัตโนมัติ 2 กระบอก, กระสุนขนาด .38 จำนวน 17 นัด, สมุดบัญชีพร้อมบัตร ATM 30 เล่ม, โทรศัพท์ และซองซิมการ์ดอีกจำนวนมาก และตรวจค้นห้องพักของผู้ต้องหาทั้งหมดพบ สมุดบัญชีพร้อมบัตร ATM อีก17 เล่ม และเอกสารพร้อมอุปกรณีในการเปิดบัญชี และโทรศัพท์อีกจำนวนมาก

โดยมี นายแลง เช่ง (Leng Seng) หรือ มกรา เป็นหัวหน้า และผู้ศีลงทุนทั้งหมด เป็นผู้รับซื้อ-ขาย บัญชีธนาคาร พร้อมกับซิมโทรศัพท์ซึ่งผูกกับบัญชี และพาบุคคลต่างด้าวที่ประสงค์ขายบัญชี ไปเปิดบัญชีที่ที่ธนาคารสาขาต่างๆ โดยจะรับซื้อบัญชีธนาคารกสิกรไทย และธนาคารทหารไทยธนชาต บัญชีละ 8,000 บาท, บัญชีธนาคารไทยพาณิชย์ บัญชีละ 15,000 บาท (เพราะสามารถทำรายการได้จำนวนเงินมากกว่า) โดย ผู้ต้องหาจะได้รับเงินค่าจ้างพาคนเปิดบัญชี บัญชีละ 4,000-6,000 บาท นำมาแบ่งกันภายในแก๊ง และนายเลง เช่ง (Leng Seng) หรือ มกรา จะรวบรวมให้ นายแจ๊ค (ขอปกปิดนาม) เป็นผู้รับซื้อบัญชีไปขายให้คนร้ายนำไปใช้เป็นบัญชีม้าให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์นำไปใช้ที่ชายแดนในประเทศเพื่อนบ้าน โดย นายแจ๊คฯ หรือลูกน้องนายแจ๊คฯ ที่มีสัญชาติกัมพูชา จะมารับ บัญชีพร้อมซิมโทรศัพท์ กับนายเลง เช่ง (Leng Seng) หรือ มกราเองโดยจ่ายค่าจ้าเป็นในสด บัญชีพร้อมโทรศัพท์ ซุตละ 120.000,000-20,000 บาท ต่อบัญชี อีกด้วบ นำตัวผู้ต้องหาทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป