เมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2565 เวลา 14.00 น. ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ นายมงคลชัย สมอุดร รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบเงินจากกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย กรณีท่อก๊าซธรรมชาติรั่ว และเกิดอัคคีภัย จังหวัดสมุทรปราการเพิ่มเติม จำนวน 51 ราย จำนวน 800,000 บาท โดยมีนายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วย นายพชร ศศิชาชยามร หัวหน้าสำนักงานป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสมุทรปราการ ให้การต้อนรับ
ด้วยเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2563 ได้เกิดเหตุท่อส่งก๊าซธรรมชาติรั่ว และเกิดเพลิงไหม้ ในพื้นที่หมู่ที่ 4 ตำบลเปร็ง อำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ ทำให้มีผู้เสียชีวิต บาดเจ็บและทรัพย์สินได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก หน่วยงานภาครัฐ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ภาคเอกชน และองค์การสาธารณกุศลได้เข้ามาให้ความช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวจังหวัดสมุทรปราการ ได้ดำเนินการขอรับการช่วยเหลือจากกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 1 จำนวน 65 ราย เป็นเงิน จำนวน 1,620,000 บาท และได้ดำเนินการจ่ายไปแล้วเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2564 และเพิ่มเติม ครั้งที่ 2 จำนวน 51 ราย เป็นเงิน 800,000 บาท โดยกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี จัดตั้งขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรับเงินหรือทรัพย์สินที่มีผู้บริจาคช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยเพื่อการดำรงชีพ ประกอบอาชีพ และฟื้นฟูความเป็นอยู่ให้ดีขึ้น
นายมงคลชัย สมอุดร รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลโดย นายกรัฐมนตรี และนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ฝากความห่วงใยมาถึงพี่น้องประชาชนทุกคน ซึ่งได้เน้นย้ำให้หน่วยงานต่าง ๆ เร่งดำเนินการช่วยเหลือโดยได้มอบหมายให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีนำเงินจากเงินกองทุนฯ มาดำเนินการช่วยเหลือในครั้งนี้ จึงอยากให้พี่น้องประชาชนทุกคนได้รับทราบถึงความห่วงใยจากรัฐบาล
ทั้งนี้ ภายหลังมอบเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ตรวจติดตามการดำเนินงานของศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นหน่วยแรกรับปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนเพื่อส่งต่อให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ โดยจังหวัดสมุทรปราการเป็นจังหวัดที่มีความพร้อมสูง มีช่องทางรับเรื่องร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมได้หลายช่องทาง และมีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามในการแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชน