อาชญากรรม

สืบ ตม.1 จับมือ สืบ ท่องเที่ยว กอง 1 จับกุมหนุ่มไนจีเรียนักฝัน จำหน่ายโคเคนเพื่อหาเงินแต่งงาน ซ่อนของกลางในกล่องคุกกี้เจ้าสาว

%e0%b8%aa%e0%b8%b7%e0%b8%9a-%e0%b8%95%e0%b8%a1-1-%e0%b8%88%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b8%ad-%e0%b8%aa%e0%b8%b7%e0%b8%9a-%e0%b8%97%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%b5

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.ปิยะอนันต์ โตสกุลวงศ์ ผบก.ตม.1, พล.ต.ต.ม.ล.สันธิกร วรวรรณ ผบก.ทท.๑, พ.ต.อ.ศราวุฒิ ตันกุล, พ.ต.อ.พัฒนา พัฒนชัย, พ.ต.อ.ล้ำพรรณ พรรธนประเทศ รอง ผบก.ทท.๑, พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ รอง ผบก.ตม.1, พ.ต.อ.กาจภณ ปฐมัง ผกก.สืบสวน บก.ตม.1, พ.ต.อ.ปิยรัช สุภารัตน์ ผกก.๑ บก.ทท.๑, , พ.ต.ท.มนพร ลิขิตมานนท์ รอง ผกก.กก.๑ และ พ.ต.ท.พรชัย สุขเจริญ รอง ผกก.สืบสวน บก.ตม.1 สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน กก.สืบสวน บก.ตม.1 และ กก.1 บก.ทท.1 บช.ทท. วางแผนเปิดปฏิบัติการสกรีนพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อสร้างความปลอดภัย รอต้อนรับนักท่องเที่ยวตามนโยบายรัฐบาล

เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สืบสวน บก.ตม.1 และ ฝ่ายสืบสวน กก.1 บก.ทท.1 จึงได้ร่วมกันลงพื้นที่สืบสวน หาข่าว จนทราบว่ามีชาวต่างชาติผิวสีซึ่งมีพฤติการณ์เกี่ยวข้องกับการยาเสพติด ใช้ห้องพักในพื้นที่ห้วยขวางเป็นที่พักอาศัยหลบซ่อนตัว จึงได้จัดกำลังเฝ้าติดตามนานนับสัปดาห์ จนทราบว่าสถานที่ดังกล่าวตั้งอยู่ที่อาคารบี ชั้นที่ 31 ของคอนโดแห่งหนึ่ง ย่านถนนพระราม 9 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร จึงได้ยื่นคำร้องต่อศาลอาญาเพื่อขออำนาจศาลทำการตรวจค้น ซึ่งต่อมาศาลอาญาได้อนุมัติหมายค้นที่ 313/2566 ลงวันที่ 20 กันยายน 2566 เพื่อให้เข้าทำการตรวจค้นห้องพักดังกล่าว

ผลการตรวจค้น พบบุคคลต่างชาติผิวสี ทราบชื่อภายหลัง คือ MR.CHIEMELA SOLOMON ONU สัญชาติ ไนจีเรีย ถือหนังสือเดินทางเลขที่ A1090434 พร้อมโคเคนของกลางจำนวน 7 แท่ง น้ำหนักรวมประมาณเกือบ 1 ขีด (รวมภาชนะบรรจุ) ซุกซ่อนอยู่ใน “กล่องคุกกี้ช็อกโกแลต ลาวา” ซึ่งถูกเก็บไว้อย่างดีรวมกับขนม

โดย MR.CHIEMELA SOLOMON ONU ยอมรับว่าโคเคนทั้ง 7 รายการดังกล่าวเป็นของตนเอง โดยเริ่มต้นจากตนเคยกินเที่ยวในบริเวณซอยสุขุมวิท ในฐานะนักท่องเที่ยว จนกระทั่งวันหนึ่งได้พบรักกับสาวไทยและได้ตกลงปลงใจคบหาวางแผนแต่งงานกัน ตนจึงวางแผนจะพิสูจน์ตัวเองให้ฝั่งบ้านของหญิงสาวยอมรับ ตั้งใจจะเก็บเงินสร้างครอบครัว แต่ตนใจร้อนอยากให้จัดแต่งงานเร็วๆ จึงเลือกวิธีการรักไม่รักก็ต้องเสี่ยง ลักลอบขายโคเคนตามแหล่งท่องเที่ยวในกรุงเทพมหานครให้แก่นักท่องเที่ยวผิวสีด้วยกัน และให้การรับว่าโคเคนของกลางดังกล่าวนั้น ได้ซื้อมาและขายไปในกลุ่มเพื่อนชาวต่างชาติ สัญชาติไนจีเรีย ที่บริเวณซอยสุขุมวิท 7, 9 และ 11 ในราคาแท่งละ 1,500 บาท และจะนำมาขายต่อให้ลูกค้าในราคาแท่งละ 2,000 บาท สุดท้ายไม่เป็นดั่งฝัน ทำได้ไม่กี่ครั้ง ก็ถูกสาวไทยหักอกเสียก่อน ทำให้ช่วงนี้ออกขายบ้างไม่ขายบ้าง และเก็บโคเคนซุกซ่อนไว้ในกล่องคุกกี้ช็อกโกแลต ลาวา ซึ่งเป็นขนมมื้อสุดท้ายที่ตนและอดีตคนรักได้กินด้วยกันก่อนแยกทางกันไป จึงเก็บไว้ดูต่างหน้าเพราะตนทำใจไม่ได้ จนกระทั่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจเข้าตรวจค้นจับกุมในเวลาต่อมา โดยขณะถูกจับกุม ผู้ต้องหาขอใช้สิทธิ์โทรหาคนรักเก่า แต่สาวเจ้าก็ไม่ตอบรับ ปลายทางสายไม่ว่าง คนข้างๆก็ไม่มี จึงต้องถูกดำเนินคดีอย่างโดดเดี่ยว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหาพร้อมทั้งสิทธิตามกฎหมายให้ MR.CHIEMELA SOLOMON ONU ทราบ ในข้อกล่าวหา “ครอบครองยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) โดยไม่ได้รับอนุญาต” และได้ตรวจสอบหนังสือเดินทางของ MR.CHIEMELA SOLOMON ONU พบว่าเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยถูกต้องตามกฎหมาย แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมยังรู้สึกเอะใจ จึงได้ตรวจสอบรายละเอียดการเดินทางเข้าออกราชอาณาจักรของ MR.CHIEMELA SOLOMON ONU ในระบบสารสนเทศ สตม. ต่อไปอีก และพบว่า MR.CHIEMELA SOLOMON ONU ได้แจ้งที่พักอยู่ที่บ้านเลขที่ 1123/140 ม.4 ต.หัวทะเล อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา แต่ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการตรวจค้นนั้น พบ MR.CHIEMELA SOLOMON ONU พำนักอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จึงได้แจ้งข้อกล่าวหา เป็นบุคคลต่างด้าวไม่รายงานตัวต่อเจ้าพนักงานในเวลาที่กำหนด มาตรา ๓๗ (๔) ตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 อีกกระทงหนึ่งด้วย ก่อนนำตัวส่ง พนักงานสอบสวน สน.มักกะสัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พ.ต.ท.นิมิตร จรรยาลักษณ์ สว.กก.1 บก.ทท.1 และ พ.ต.ต.เจตน์ ยุทธโยธิน สว.กก.สส.บก.ตม.1 กล่าวว่า ผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ได้สั่งการ โดยเน้นย้ำการปฏิบัติและเอาใจใส่นโยบายการดูแลอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยว ซึ่งถือเป็นการบริการ ควบคู่ไปกับ การให้ความมั่นใจในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นเรื่องของความมั่นคง เพื่อให้สอดรับกับนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลในการ restart ครั้งใหญ่การท่องเที่ยวของไทยที่ให้ภาคการท่องเที่ยวเป็นเครื่องจักรทางเศรษฐกิจในการสร้างรายได้ใหญ่ให้กับประเทศได้ โดย กก.สืบสวน บก.ตม.1 และ ฝ่ายสืบสวน กก.1 บก.ทท.1 ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูล และร่วมบูรณาการการปฏิบัติกันมาโดยตลอด และจะมีความร่วมมือกันทำงานในอนาคตต่อไปเพื่อให้พื้นที่กรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ศักยภาพสูงในการรองรับนักท่องเที่ยว ทั้งมิติด้านการอำนวยความสะดวกนักท่องเที่ยวโดยกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว และมิติด้านความมั่นคงโดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อผลสำเร็จตามนโยบายของผู้บังคับบัญชาทุกระดับขานรับนโยบายรัฐบาลทันที ทั้งนี้ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายังกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวที่หมายเลขโทรศัพท์สายด่วน 1155 และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ที่หมายเลขโทรศัพท์สายด่วน 1178

0 Comments
Share

Admin

Reply your comment

Your email address will not be published. Required fields are marked*