ป้าเชง บุญไทย ตั้งเด่นไชย และนายวันชัย คงเกษม ประธานในพิธีบวงสรวง บรรจุยันต์ดวง ชื่อไว้ใต้ฐาน องค์เตียวฮู้เทียนซือ หรือ เตี่ยวเทียนซื่อ เรียกง่ายๆ คือ “ราชครูสวรรค์”
เมื่อเวลา 16.09 น.ของวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 ที่บริเวณมณฑลพิธีสถานที่ก่อสร้างวิหารพระโพธิ์สัตว์พระแม่กวนอิม อวโรกิเตศวรโพธิ์สัตว์ ซอยเทศบาลบางปู 52 (ฟอกหนังกม. 30) บางเมฆขาว ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ “ป้าเชง” นางบุญไทย ตั้งเด่นไชย ประธานบริหาร หจก.เด่นชัยปากน้ำ และนายวันชัย คงเกษม อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ เป็นประธานฝ่ายฆราวาส พิธีบวงสรวง บรรจุยันต์ดวงใต้ฐาน องค์เตียวฮู้เทียนซือ หรือ เตี่ยวเทียนซื่อ เพื่อความเป็นสิริมงคล
โดยมี ซินแสกวง อาจารย์นาวิน อมิตาเรืองกิจ ประธานบริหารพุทธสถานจีเต็กลิ้ม จังหวัดนครนายก เป็นเจ้าพิธี ในครั้งนี้ พร้อมด้วย นางนงรัตน คงเกษม อดีตนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรปราการ นายดำรงค์ ยงค์สงวนชัย ประธานมูลนิธิเจ้าพ่อทัพ นายสมศักด์ แก้วเสนา ปลัดจังหวัดสมุทรปราการ นายอัครวัฒน์ อัศวเหม อดีต ส.ส.สมุทรปราการ นายธีรพล ชุนเจริญ นายกเทศมนตรีตำบลบางปู คณะกรรมการเหล่ากาชาดจังหวัดสมุทรปราการ ตลอดจนแชกผู้มีเกียรติ หัวหน้าส่วนราชการ ศิษยานุศิษย์ เจ้าแม่กวนอิม คณะกรรมการมูลนิธิร่วมกุศล สมุทรปราการ หัวหน้าช่างและทีมงานก่อสร้างวิหารพระโพธิ์สัตว์พระแม่กวนอิม ร่วมบรรจุยันต์ดวง เขียนชื่อตัวเองและญาติพี่น้อง ใส่ใต้ฐาน องค์เตียวฮู้เทียนซือ หรือ เตี่ยวเทียนซื่อ เรียกง่ายๆคือ “ราชครูสวรรค์” ท่านเป็นปรมจารย์ลัทธิเต๋านิกายอู่ไต้หมี่เต้า เกิดในสมัยราชวงศ์ฮั่นตะวันออก (ฮ่องเต้ฮั่นกวนตี้) ที่ตำบลเฟิงเสี้ยน มณฑลเจียงซู พ่อของท่านคือจางเหลียง ขุนนางในสมัยฮั่นตะวันตก (ว่ากันว่าท่านเป็นเชื้อสายรุ่นที่ 9 ของจางเหลียง เสนาธิการของเล่าปังฮ่องเต้ผู้ก่อตั้งราชวงศ์ฮั่น)
ก่อนกำเนิดนั้นแม่ของท่านฝันว่ามีเทพเจ้าตัวสูงสวมมงกุฎทองคำเสด็จลงมาหานางจากกลุ่มดาวจระเข้แล้วก็มอบไม้หอมไว้ให้หนึ่งต้นก่อนจะหายตัวไป พอตื่นมาในห้องก็มีกลิ่นหอมไปยาวนาน พอวันคลอดของท่านก็มีแสงสว่างสีแดงพร้อมด้วยกลิ่นหอมอีกนานเป็นเดือนถึงจะหาย ทางฝ่ายพ่อก็ได้ตั้งชื่อให้ว่า จางเต้าหลิงท่านได้ศึกษาตำราเต๋า “เต้าเต๋อจิง” ตั้งแต่เด็ก นอกจากนี้ยังเรียนศึกษาด้านการต่อสู้ต่างๆด้วย พอโตเป็นหนุ่มท่านก็สอบจอหงวนฝ่ายบู๊ได้ที่สอง ฮ่องเต้จึงให้ไปรับราชการอยู่เมืองจิงโจวได้ไม่นานนัก ท่านก็ขอลาออกเพื่อไปบำเพ็ญตบะอยู่ที่เขาเป่ยหมางจนมีเสือขาวตัวใหญ่คาบคัมภีร์มาให้ พอยุคสมัยของฮ่องเต้ฮั่นเหอตี้ ท่านก็ถูกฮ่องเต้เรียกให้เข้าเฝ้าเพื่อให้เป็นซินแสและครูสอนไท้จื้อรัชทายาท พร้อมประทานบรรดาศักดิ์ให้ แต่ท่านก็ปฏิเสธไป
หลังจากนั้นท่านก็ได้เดินทางไปที่ภูเขาหลงเหอ มณฑลเจียงซี ที่มีพืชพรรณสมุนไพรขึ้นเยอะมาก ท่านได้ค้นคว้าวิจัยจนสร้างยาอายุวัฒนะ (長生藥) ได้สำเร็จ (ตอนอายุ 60 ปี) ในปีค.ศ. 142 ไท่ซ่านเหล่าจินก็มาปรากฎกายต่อหน้าท่านเพื่อสอน เพื่อถ่ายทอดคำสอนของศาสนาเต๋าให้ท่านโดยตรง หลังจากนั้นท่านก็รับลูกศิษย์มาสั่งสอน นอกจากนี้ท่านยังเขียนคัมภีร์ลัทธิเต๋าถึง 24 เล่ม และเรียกตัวเองว่า “มหาวิสุทธาจารย์” ในระหว่างนี้ท่านได้ปราบปิศาจร้าย เช่น ปิศาจงูสอตัว ที่ทางสวรรค์ส่งมาทดสอบท่าน (ต่อมาภายหลังตัวนึงกลายเป็นกระบี่ 7 ดาว และอีกตัวกลายเป็นตราประทับ ของวิเศษประจำตัวท่าน) ตอนอายุ 90 มีโรคระบาดขึ้นที่มณฑลเสฉวน ท่านและลูกศิษย์ก็ออกช่วยเหลือชาวบ้านโดยเรียกค่ารักษาเป็นข้าวสารแค่ 5 โต่ว หลังจากนั้นสำนักของท่านก็ได้รับฉายาว่า “สำนักข้าวสารห้าโต่ว” (五斗米教)ในปีค.ศ. 159 ท่านก็ส่งต่อสำนักให้ลูกชายคนโตชื่อจางเหิง (張衡) เพื่อสืบทอดต่อไปและท่านก็สำเร็จเป็นเซียนขึ้นสวรรค์ไปในสมัยฮ่องเต้ฮั่นหวนตี้ ด้วยอายุ 122 ปี ผ่านฮ่องเต้มาถึง 11 แผ่นดิน
สำนักเต๋าของท่านได้เผยแผ่ลัทธิเต๋าตลอดมา (ปัจจุบันเรียกว่าลัทธิเต๋านิกายเจิ้งอี) จนถึงปัจจุบันเป็นรุ่นที่ 64 ซึ่งมีเจ้าลัทธิชื่อว่าจางหยวนเซียน อยู่ที่ไต้หวันรูปลักษณ์ของท่านจะเป็นชายหน้าดำ มือนึงถือดาบ อีกมือถือเขาควาย ขี่เสือโคร่งสีขาวตามตำนาน บางครั้งก็ถือไม้งาช้างสำหรับเข้าเฝ้า