ตามนโยบายการปราบปรามอาชญากรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติโดยอาชญากรรมที่ส่งผล กระทบต่อความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนและเป็นภัยคุกคามต่อความสงบเรียบร้อย ของประเทศ เช่น ยาเสพคิด, อาชญากรรม ทางเทคโนโลยี, ค้ามนุษย์, ผู้มีอิทธิพล, อบายมุข, บ่อนการพนัน การพนันออนไลน์ สินค้าผิดกฎหมาย อาชญากรรมที่ส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ต่อพี่น้องประชาชน
ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ภายใต้อำนวยการ พล.ต.ต.วิชิต บุญชินวุฒิกุลผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ/ พ.ต.อ.ชูตระกูล ยศมาดี รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ/ พ.ต.อ.ไพโรจน์ เพ็ชรพลอย ผกก.บางพลี/ พ.ต.ต.ภาวัต รัตนาภรณ์ รอง ผกก.สส.ฯ /กำลังชุดจับกุมกุมนำโดย พ.ต.ต.สันติราษฎร์ เงินมั่น สว.สส.ฯ/เจ้าหน้าที่ตำรวจ สก.บางพลี
ขอแถลงผลการจับกุมผู้กระทำผิดรายสำคัญก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ สภ.บางพลีด้วยช่วงเดือนมกราคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สภ.บางพลี ได้รับแจ้งเหตุ ลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ จำนวนหลายคัน ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้แก่ประชาชนภายในพื้นที่
ผู้บังคับบัญชา จึงได้สังการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สภ.บางพลี สืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุดังกล่าว มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเส้นทางหลบหนี ทราบว่าภายหลังก่อเหตุนั้น กลุ่มผู้ก่อเหตุได้นำรถจักรยานยนต์ ที่ได้จากการก่อเหตุ ไปจอดไว้ภายในบริเวณ บ้านเลขที่ 121/1 ม.6 ต.บางโฉลง อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ จึงได้วางแผนเข้าจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุดังกล่าว โดยสอดส่องพฤติกรรมของบุคคลผู้อาศัยอยู่ในบ้านและได้วางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์จำนวนหลายคืน
ต่อมาวันที่ 20 ม.ค. 2568 เวลาประมาณ 01.30 น เจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สภ.บางพลี ตรวจพบว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุดังกล่าวเป็นชาย 2 คน ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบริเวณที่พัก เพื่อไปก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์ จึงได้จัดกำลังซุ่มโป่งเพื่อทำการจับกุมโดยรอบ ซึ่งต่อมากลุ่มผู้ก่อเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ใช้ในการก่อเหตุและรถจักรยานยนต์ที่ได้จากการก่อเหตุ จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม นายจิรายุ หรือเตี้ย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 27 ปี และนายพีรพล หรือทีม (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี โดยจากการสอบถามผู้ก่อเหตุทั้ง 2 ได้ให้การว่าพวกตนนั้นได้ก่อเหตุลักทรัพย์รถจักรยานยนต์มาแล้ว มากกว่า 10 ครั้ง โดยใช้วิธีหักคอรถ จากนั้นต่อไฟฟ้าตรงซึ่งทำให้สามารถขับขี่รถจักรยานยนต์ได้ปกติ หลังจากก่อเหตุแล้วนั้น จะนำรถจักรยานยนต์ที่ได้จากการลักทรัพย์มาจอดภายในบริเวณบ้านเลขที่ 121/1 ฯ ทำการเปลี่ยนเบ้ากุญแจรถจักรยานยนต์ จากนั้นจะนำเบ้ากุญแจเดิม ป้ายทะเบียน เอกสารต่างๆ ที่ติดมากับรถจักรยานยนต์ ไปโยนทิ้งที่บริเวณคลองบางโฉลง ซึ่งอยู่บริเวณด้านหลังของบ้านดังกล่าว จากนั้นนายเหนือฯ จะให้พวกตนนำรถจักรยานยนต์ ไปจอดไว้ที่สถานที่ต่างๆ ตามที่นายเหนือฯแจ้ง ซึ่งนายเหนือฯ จะเป็นผู้ติดต่อชื้อ-ขาย รถจักรยานยนต์ที่ได้จากการลักทรัพย์และนำเงินที่ได้จากการขายรถจักรยานยนต์ มาแบ่งให้พวกตน คันละ 2,500 – 3,000 บาท ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายสืบสวน สภ.บางพลี ได้นำตัวผู้ถูกจับทั้งสอง ตรวจค้นบริเวณคลองบางโฉลง ซึ่งอยู่บริเวณด้านหลังบ้าน ข้างต้น โดยตรวจพบทรัพย์สินจำนวนหลายรายการ
ได้ร่วมจับกุมตัวผู้ก่อเหตุคือ
1.นายจิรายุ หรือเต้ย ธุระมาล อายุ 27 ผู้ถูกจับที่ 1
2.นายพีรพล หรือทีม สายวิเศษ อายุ 19 ปี ผู้ถูกจับที่ 2
พร้อมยึดของกลางที่ตรวจยึดได้
1.รถจักรยานยนส์ ยี่ห้อ HONDA รุ่น WAVE125 i สีดำ ทะเบียน 6ขอ 2078 กทม.(รถจักรยานยนด์คันที่ใช้ในการก่อเหตุ)
2.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ HONDA รุ่น WAVE125i สีดำ-เทา ทะเบียน 5ขอ 4566 กทม. (รถจักรยานยนต์คันที่ถูกประทุษร้าย)
3.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ HONDA รุ่น WAVE110i สีดำ-แดง ทะเบียน 6 ขน 4431 กทม.(รถจักรยานยนต์คันที่ถูกประทุษร้าย)
4.เบ้ากุญแจ จำนวน 19 อัน
5.กรอบแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 8 อัน
6.ป้ายทะเบียน จำนวน 3 ป้าย พร้อมของกลางอื่นๆตามเอกสารแนบ
โดยกลำวหาว่า”ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำความผิด
หรือพาทรัพย์นั้นไปหรือรับของโจร” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน
ภ.จว.สมุทรปราการ ขอประชาสัมทันธ์แจ้งเตือนให้ประชาชนผู้ใช้รถจักรยานยนต์ทราบ เนื่องจากคนร้ายมีความชำนาญในการโจรกรรมรถจักรยานยนต์ โดยใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที ควรเพิ่มการป้องกัน การถูกโจรกรรมรถจักรยานยนต์ โดยมีวิธีการดังนี้ คือ อย่าจอดรถไว้ในที่เปลี่ยว มุมอับ มุมมืด หรือเสี่ยงต่อการถูกโจรกรรม, จอดรถทุกครั้ง ห้ามลืมกุญแจไว้ที่รถในทุกกรณี, จอดรถต้องล็อคคอ. ใช้อุปกรณ์ล็อคดิสเบรก ใช้สายลวดสลิงถัก ที่ป้องกันการตัด นำมาคล้องล็อค,ติดตั้งระบบกันขโมยแบบส่งเสียง ต้องดูให้ดีว่าระบบมีแบตสำรองอยู่ในตัวหรือไม่
เพราะเดี๋ยวนี้โจรมือเบาตัดสายไฟที่ขั้วแบตเตอร์รี่ทำให้ระบบกันขโมยหยุดทำงานทันที ควรล็อคคอรถจักร
ยานยนต์ทุกครั้ง ทั้งนี้ไม่ควรเก็บสำเนาเอกสาร หรือเอกสารคู่มือการจดทะเบียนรถจักรยานยนต์
ไว้ใต้เบาะรถจักรยานยนต์ เนื่องจากหากถูกคนร้ายลักทรัพย์ คนร้ายอาจจะใช้เอกสารดังกล่าวไปอ้างอิง
เพื่อนำรถจักรยายนต์ไปจำหน่ายอย่างผิดกฎหมายได้ ควรเก็บสำเนาเอกสารดังกล่าวไว้ที่ตัว
เพื่อสะดวกต่อการแสดงให้เจ้าหน้าที่