วันที่ 30 มกราคม 2568 เวลา 10.00 น. ที่สำนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.)จังหวัดสมุทรปราการ ถนนสุขุมวิท ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ นางปัญจมา กันสุขเจริญ ผู้อำนวยการสำนักงานธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจังหวัดสมุทรปราการ ได้กล่าว ที่ผ่านมา ขอขอบคุณที่ได้รับความร่วมมือร่วมแรงจากทุกส่วนงาน ทั้งในภาคของส่วนงานภาครัฐและภาคเอกชน ที่ได้ให้การสนับสนุน ธกส.ด้วยดีมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนเงินทุนจากส่วนงานภาครัฐ การให้ความร่วมมือเพื่อพัฒนาศักยภาพของกลุ่มเกษตรกรลูกค้า ธนาคาร หรือประชาชนทั่วไปรวมถึงการมีส่วนร่วมกับส่วนงานภาครัฐในการดูแลพี่น้องประชาชน ที่ต้องการได้รับความช่วยเหลือ ซึ่งเป็นงานนโยบายรัฐที่ต้องดำเนินการภายใต้ระยะเวลาที่กำหนด และเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาลที่ธนาคารต้องรับผิดชอบ คือโครงการพักชำระหนี้ โดยมีระยะเวลาโครงการ 3 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566-วันที่ 30 กันยายน 2569
ซึ่งในปีที่ผ่านมา มีการดำเนินโครงการในระยะแรกไปแล้ว และมีจำนวนลูกค้าที่แสดงความประสงค์จำนวนทั้งสิ้น 2025 ราย ในปีนี้กำลังดำเนินการต่อในเฟสที่ 2 และในระหว่างปีที่ลูกค้าเข้าร่วมโครงการ ต้องได้รับการฟื้นฟูรายได้ เพิ่อพัฒนาศักยภาพอาชีพเดิม อาชีพเสริมของการเกษตรกร โดยนำเทคโนโลยี นวัตกรรม ความรู้ ภูมิปัญญาท้องถิ่นมาประยุคต์ใช้ในการลดต้นทุน เพื่อประสิทธิภาพการผลิต การเพิ่มรายได้ การเชื่อมโยงภาคีเครือข่ายด้านการตลาด ตลอดจนห่วงโซ่อุปทานและสร้างภูมิคุ้มกันกับทางการเงินด้วยการเพิ่มทักษะทางการเงินและดิจิทัล
โครงการนโยบายรัฐในการพัฒนาลูกค้าและชุมชน หรือโครงการพักชำระหนี้ มีลูกค้าของจังหวัดสมุทรปราการเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 2,025 ราย โดยแยกการดำเนินงานเป็น 3 ระยะ ดังนี้ 1. โครงการพัฒนาฟื้นฟูศักยภาพลูกค้าพักชำระหนี้ระยะที่ 1 ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2566-30 กันยายน 2567 เป้าหมายก็คือ มีการพัฒนาเพื่อให้มีรายได้เพิ่มขึ้น หรือมีต้นทุนลดลง หรือผลผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 ณ วันที่ 8 มกราคม 2568 สนจ.สมุทรปราการ มีลูกค้าเข้าร่วมพัฒนาจำนวน 511 ราย ตัวชี้วัดคือ มีรายได้เพิ่มขึ้น หรือลดต้นทุนการผลิตลดลง หรือมีปริมาณผลผลิตเพิ่มขึ้น มากกว่า 15% ซึ่งจังหวัดสมุทรปราการได้ดำเนินการพัฒนาในรูปแบบอบรมและศึกษาปฏิบัติจริงจำนวน 8 รุ่น มีผู้เข้าอบรมจำนวน 511 ราย ในการอบรมการทำอาชีพอาทิ ไข่เค็ม ปุยมูลไส้เดือน สลักโรล ปลูกผักโฮโดรโปนิกส์ฯลฯ รวมทั้งมีกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่เข้าร่วมกิจกรรมเพื่อมาทำหน้าที่ให้ความรู้กับผู้เข้าอบรมและมาอบรมเพิ่มประสิทธิภาพด้วย อาทิ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนภูไท กลุ่มวิสาหกิจชุมชนบางปลาพัฒนา ฯลฯ
โครงการฟื้นฟูพัฒนาศักยภาพลูกค้าพักชำระหนี้ ระยะที่ 2 ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2567-กันยายน 2568 มีเป้าหมายที่ต้องเข้ารับการอบรมจำนวน 411 ราย ตัวชี้วัดเหมือนกับระยะแรก โครงการฟื้นฟูระยะที่ 3 ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2568 ถึง 30 กันยายน 2569 ถือว่าสิ้นสุดโครงการพักชำระหนี้ โดยวัตถุประสงค์หลักคือ ช่วยให้ลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการพักชำระหนี้ สามารถชำระเงินต้นและดอกเบี้ยค้างได้ทั้งหมด สำหรับนโยบายรัฐที่ธนาคารต้องดำเนินการเพื่อให้บริการประชาชนในปัจจุบันก็จะมีในเรื่องของการจ่ายเงินโครงการชะลอข้าว โครงการเงินดิจิทัลของรัฐบาล ซึ่งจะมีกลุ่มเปราะบางหรือกรุ่มผู้สูงอายุที่ต้องมาใช้บริการสำหรับการฝากถอนเงิน ซึ่งคนกลุ่มนี้จะไม่มีโทรศัพท์ในการคำเนินกิจกรรมการฝากการถอนและในปี 2568 ธนาคารยังคงให้การดูแลและสนับสนุนกลุ่มเกษตรกรลูกค้าของธนาคาร และการให้ความร่วมมือกับส่วนงานภาครัฐและเอกชนเหมือนเดิม ตลอดจนธนาคารได้มีผลิตภัณฑ์ออกมาเพื่อให้ผู้ใช้บริการได้เลือกใช้บริการ อาทิ เช่น เงินฝาก ซื้อผลิตภัณฑ์ สลากออมทรัพย์ ธ.ก.ส. ชุดหยกจักรพรรดิ ฝากสลาก หน่วยละ 10,000 บาท รางวัลที่ 1 เสี่ยงหมวด มี 1 รางวัล ๆ ละ 10,000,000 บาท รางวัลเลขท้าย 4 ตัว หมุน 1 ครั้ง มี 500 รางวัล ๆ ละ 5,000 บาท รางวัลเลขท้าย 3 ตัว หมุน 1 ครั้ง มี 5,000 รางวัล ๆ ละ 1,000 บาท รางวัลพิเศษ (เสี่ยงหมวด) มี 40 รางวัลๆ ละ 1,000,000 บาท (ออกรางวัลครั้งละ 5 รางวัล ในปี 2568 เดือน มี.ค. ก.ย. ธ.ค. และปี 2569 เดือน มี.ค. มิ.ย. ก.ย. ธ.ค.)
ประเภทผลิตภัณฑ์ บัตรเดบิด PromptCard มาตรฐาน Thai Standard แบบมีประกันกันภัย วงเงินคุ้มครองสูงสุด 2,000,000 บาท 1. ค่าเบี้ยประกันภัย 3,299 บาท 2. ค่าธรรมเนียมบัตรรายปี 200 บาท ผลิตภัณฑ์สินเชื่อ ธกส.สำหรับ อสม.มีดังนี้ สินเชื่อคนด่วนคนดี รายละ 20,000.-บาท สินเชื่อกึ่งแสน รายละ 50,000.-บาท สินเชื่อสิบหมื่น รายละ 100,000-บาท อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 8 ต่อปี ระยะเวลา 4-10 ปีตามแต่โครงการ ทั้งนี้ หากมีผู้สนใจ เชิญเข้ารับบริการหรือขอนรายละเอียดเพิ่มได้ที่ ธ.ก.ส. ทุกสาขา หรือมาเป็นเพื่อนกันใน Line Official ของ ธ.ก.ส.ชื่อ BAAC Family ได้
Admin
Recommended To You
