กีฬา

“คิวทอง”สุดทนลงดาบสอง ติงเบี้ยเลี้ยงซีเกมส์จิ๊บจ๊อย ผิด ”มวยไทย” ละลายเพลิน

%e0%b8%84%e0%b8%b4%e0%b8%a7%e0%b8%97%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%aa%e0%b8%b8%e0%b8%94%e0%b8%97%e0%b8%99%e0%b8%a5%e0%b8%87%e0%b8%94%e0%b8%b2%e0%b8%9a%e0%b8%aa%e0%b8%ad%e0%b8%87-%e0%b8%95

จากกรณีที่ “ไทยทอร์นาโด” ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ออกมาโวยเรื่องเบี้ยเลี้ยงเก็บตัวเตรียมเข้าร่วมแข่งขันกีฬาซีเกมส์ไม่ออกร่วม 3 เดือน ทำเหมือนไม่เห็นหัว เห็นหู นักกีฬา บางรายต้องยอมแบกภาระด้วยการกู้หนี้ “นอกระบบ” เพื่อจุนเจือครอบครัว โดย รองผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศ นายปรีชา ลาลุน ออกมาแก้ต่างในปัญหาที่เกิดว่า เนื่องจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ได้กำหนดกรอบการจ่ายเงิน เตรียมไว้เพียงแค่ 248 ล้านบาท ซึ่งเงินจำนวนแค่นี้จะเก็บตัวได้ไม่เกิน 3 เดือน ไม่ใช่ 1 ปี เหมือนกับที่เคยกระทำมา โดยได้แจ้งไปยัง กรมบัญชีกลางเพื่อของบประมาณเพิ่มตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น แต่ก็ไม่ได้กำหนดว่าเงินดังกล่าวจะได้นานแค่ไหนเกี่ยวกับเรื่องนี้ นายศักดา รัตนสุบรรณ (คิวทอง) อดีตอุปนายกสมาคมกีฬาบิลเลียดแห่งประเทศไทย ออกมาเปิดเผยว่า น่าเห็นใจเหล่าบรรดานักกีฬาอย่างมาก หากตนเองยังอยู่ในตำแหน่งจะเกาะติดและเร่งดำเนินการในเรื่องเบี้ยเลี้ยงไม่ยอมให้ค้างคานานขนาดนี้ โดยเฉพาะ “ต๋อง ศิษย์ฉ่อย” ผู้จุดประกายให้กีฬาสนุกเกอร์ไทย รวมถึง วงการสนุกเกอร์ทวีปเอเชียโด่งดัง จนมีแชมป์โลกตกกับนักสนุกเกอร์จีน (จ้าว ซินถง) ส่งผลให้ทั่วโลกจับตานักกีฬาจากทวีปเอเชีย การที่ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย ออกมาระบายความในใจก่อนหน้านื้จึงถือว่า “เลือดเข้าตา”

นายศักดา ยังได้ยืนยันอีกด้วยว่า ในส่วนของผู้ที่เคยให้การดูแลนักกีฬาสนุกเกอร์มาอย่างยาวนาน อยากบอกว่า “การกีฬาแห่งประเทศไทย ไม่เคยเห็นความสำคัญของนักกีฬา ซึ่งหลังจากนี้เหลือเวลาอีกไม่ถึง 5 เดือน ประเทศไทยก็จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในเดือนธันวาคม ปีนี้ โดยเฉพาะกีฬาสนุกเกอร์หนนี้มีชิง 10 เหรียญทอง ถือว่ามีความสำคัญมาก จะลบประวัติศาสตร์การคว้าเหรียญทอง คาดว่าน่าจะได้ไม่น้อยกว่า 6 เหรียญ จากนักสนุกเกอร์หญิง 4 เหรียญทอง และ นักสนุกเกอร์ชายอีก 2 เหรียญทอง ดังนั้น การกีฬาแห่งประเทศไทย ต้องเหลียวมองนักกีฬาทุกแขนง โดยเฉพาะ สนุกเกอร์ชาย และ สนุกเกอร์หญิง ซ้อมกันหนักตั้งแต่เวลา 09.00-17.00 น. ทุกวัน ซึ่งขณะนี้แต่ละคนเริ่มเกิดอาการท้อ และ พร้อมจะถอดใจ เพราะซ้อมเหนื่อยทุกวันแต่ไม่ได้รับเบี้ยเลี้ยง จึงฝากถึง นายปรีชา ลาลุน ให้ช่วยนักกีฬาอย่างจริงจัง เพราะเงินเบี้ยเลี้ยงนักกีฬาไม่กี่ล้านบาท ถ้าเทียบกับการนำมวยไทยไปเผยแพร่ทั่วโลกมันต่างกันมาก นั่นคือกีฬาชนิดเดียวแต่ใช้เงินมหาศาล ผิดกับการเตรียมนักกีฬาทีมชาติไทย ในปัจจุบัน เหรียญทองอยากได้มาก แต่ค่าตอบแทนในส่วนของเบี้ยเลี้ยงเก็บตัวฝึกซ้อมกลับถูกหมางเมิน จึงขอฝากดูแลนักกีฬาทุกประเภทด้วย

0 Comments
Share

Admin

Reply your comment

Your email address will not be published. Required fields are marked*