
มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต มาเหนือเมฆไล่ต้อน แชมเก่า มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ อย่างขาดลอย คว้าแชมป์ คอร์ฟบอลชิงแชมป์ประเทศไทย สมใจ ขณะที่รุ่น 21 ปี เป็นทีม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ชนะ ม.ธุรกิจบัณฑิต ตัดเค้กแบ่งคนละแชมป์
ในการแข่งขันคอร์ฟบอล 4 ชิงแชมป์ประเทศไทย ครั้งที่ 2 ประจำปี 2568 คู่ชนะเลิศรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี เป็นการพบกันระหว่าง ทีม SWU (มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ) พบกับ ทีม มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต คู่นี้ความสามารถใกล้เคียงกันมาก ตลอด 3 ควอเตอร์ ทั้งคู่เสมอกัน 7-7 แต่ในควอเตอร์สุดท้าย เป็นทีม SWU (มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ) ไล่บี้เอาชนะอย่างสนุก 11-8 คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ
ต่อเนื่องในคู่ชิงชนะเลิศ ในรุ่นโอเพ่น หรือ รุ่นประชาชน เป็นการพบกันระหว่าง ทีม SWU (มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ) แชมป์เก่า พบกับ ทีม มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิต ได้รับเกียรติจาก รองศาตราจารย์ ดร.สุปราณี ขวัญบุญจันทร์ นายกสมาคมกีฬาคอร์ฟบอลแห่งประเทศไทย เป็นประธาน โดยคู่นี้ เจอกันนัดแรก เป็นทางด้าน ม.ธุรกิจบัณฑิตย์ ชนะอย่างท่วมท้น 12-0 กลับมาเจอกันในรอบชิงชนะเลิศถือว่าเป็นการล้างตา
ม.ธุรกิจบัณฑิต (ในเสื้อสีขาว) ส่งผู้เล่นหลัก 4 คนประกอบด้วย น.ส.ศิรินภา ปิตารเต, น.ส.วิมลรัตน นนทะสี, นายพงศ์ภรณ์ เรือนก้อน และ นายเอรวัตร หัวแหวน ขณะที่ ทีม SWU ส่ง น.ส.ปรียภัสสร์ สังข์ทอง, น.ส.กษมา ยะหัวดง, นายเป็นไท ภู่ทอง และ นายนพดล อรุณกิจ






ม.ธุรกิจบัณฑิต ได้เปรียบที่รูปร่างสูงใหญ่ ได้เปรียบในเรื่องเบียดบัง ขณะที่ ทีม SWU อาศัยความแคล่วคล่องว่องไว ควอเตอร์แรกยันเสมอกัน 2-2 / ควอเตอร์ที่สอง เสมอ 3-3 / ควอเตอร์ที่สาม ม.ธุรกิจบัณฑิต นำอยู่ 8-5 และ ควอเตอร์สุดท้าย เป็น ม.ธุรกิจบัณฑิต เดินหน้าไล่ยำใหญ่ เอาชนะไปในที่สุด 12-7 เป็นการย้ำแค้นนัดที่สองในรายการเดียวกัน พร้อมกับคว้าแชมป์ไปครอง
ส่วนผลคู่อื่นรอบชิงชนะเลิศ รุ่นอายุไม่เกิน 14 ปี แชมป์ได้แก่ ชมรมกีฬาคอร์ฟบอลจังหวัดชลบุรี ชนะ พิบูลบำเพ็ญ 16-3
รุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี ทีมกีฬากรุงเทพ ชนะ ชมรมกีฬาคอร์ฟบอลจังหวัดชลบุรี 10-6 คว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ
รุ่นอายุไม่เกิน 18 ทีม แชมป์ตกเป็นของทีม ชมรมกีฬาคอร์ฟบอล จังหวัดชลบุรี ด้วยการชนะ สารวิทยา 17-8

หลังจบการแข่งขัน รองศาตราจารย์ ดร.สุปราณี ขวัญบุญจันทร์ นายกสมาคมกีฬาคอร์ฟบอลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปีนี้ประสบความสำเร็จตามเป้า เนื่องจากมีทีมเข้าร่วมแข่งขันกันเป็นจำนวนมาก ได้เห็น ซูเปอร์สตาร์เกิดชึ้นหลายคน ทำให้ทีมชาติน่าจะมีดาวรุ่งเกิดขึ้นมากมาย ส่วนปีหน้าจะจัด 8 คน เพื่อเปิดโอกาสให้นักกีฬาทั่วประเทศแสดงความสามารถกันอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งยังเป็นการมองหาทีมชาติเพื่อเข้าร่วมแข่งขันรายการนานาชาติอย่างเต็มที่