ข่าวประชาสัมพันธ์

การดำเนินการของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาด

%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%94%e0%b8%b3%e0%b9%80%e0%b8%99%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%82%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%9a%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b8%a9%e0%b8%b1%e0%b8%97-%e0%b8%97

การดำเนินการของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)

วันนี้ (28 ส.ค.63) เวลา 13.00 น. นายกฤติยา ก้อนทอง รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายปฎิบัติการ 2) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ได้เข้าร่วมแถลงข่าวร่วมกับ นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป กรมควบคุมโรค และ นายแพทย์สุวิช ธรรมปาโล ผู้อำนวยการกองด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ กรมควบคุมโรค ถึงแนวทางการดำเนินการของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ภายใต้สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ณ ศูนย์ปฏิบัติการด้านข่าวโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019

นายกฤติยา ได้เปิดเผยว่า การให้บริการและอำนวยความสะดวกผู้โดยสารตามมาตรการป้องกันโรคสำหรับผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ตามคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ 8/2563 เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2563 ที่ได้อนุญาตให้ผู้โดยสาร 11 ประเภท เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรนั้น ท่าอากาศยานในการกำกับดูแลของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ได้ให้การสนับสนุนภารกิจของคณะทำงานประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ และศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคงประจำท่าอากาศยาน (ศปม.ท่าอากาศยาน) อย่างเต็มกำลังความสามารถ เพื่อสร้างความมั่นใจในมาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐว่าผู้โดยสารทุกท่านจะต้องผ่านกระบวนการคัดกรองโรคและได้รับการกักกัน ณ สถานที่กักกันที่ทางราชการกำหนด โดยมีแนวทางปฏิบัติในการให้บริการและอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร ณ ท่าอากาศยานต่าง ๆ ของ ทอท. โดยไม่มีข้อยกเว้นดังนี้

  1. จัดให้อากาศยานเข้าจอด ณ สถานที่ที่กำหนด
  2. นำผู้โดยสารจากอากาศยานเข้ามายังอาคารผู้โดยสาร โดยแบ่งกลุ่มและแยกประเภทผู้โดยสารที่ต้องนำไปสถานที่กักกันตามที่ทางราชการกำหนด เช่น SQ, ASQ และ AHQ พร้อมจัดสถานที่เพื่อให้ผู้โดยสารจัดเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนถูกต้อง พร้อมกำหนดเส้นทางเดินไว้เป็นการเฉพาะ
  3. นำผู้โดยสารเข้าคัดกรองโรค ณ ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ หากผู้โดยสารท่านใดมีอุณหภูมิร่างกายเกิน 37.3 องศาเซลเซียส และมีอาการป่วยระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ จาม ร่วมด้วย (เข้าเกณฑ์ PUI) เจ้าหน้าที่ด่านฯ จะแยกผู้โดยสารคนดังกล่าวออกพร้อมเก็บตัวอย่างส่งตรวจ Lab โดยละเอียด และนำผู้โดยสารดังกล่าวส่งโรงพยาบาลเพื่อรอผลการตรวจต่อไป สำหรับผู้โดยสารที่มีอุณหภูมิเป็นปกติจะได้รับอนุญาตให้ผ่านกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง รับสัมภาระ และนำขึ้นรถที่กระทรวงคมนาคมจัดไว้ให้บริการส่ง SQ, นำขึ้นรถโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการ ASQ และ AHQ ที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด โดยในระหว่างเดินทางจะมีรถนำที่สนับสนุนโดยตำรวจท่องเที่ยว ควบคุม กำกับจนเดินทางถึงสถานที่กักกัน ซึ่งตลอดเส้นทางตั้งแต่ผู้โดยสารออกจากอากาศยานจนถึงขึ้นรถไปยังสถานที่กักกัน จะมีเจ้าหน้าที่กำกับดูแลพร้อมอำนวยความสะดวกตลอดเส้นทางอย่างเคร่งครัด
  4. ตั้งจุดคัดกรองบุคคลที่เข้ามาใช้บริการภายในอาคารท่าอากาศยาน โดยต้องสวมหน้ากากอนามัย และผ่านการตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย หากบุคคลใดไม่สวมหน้ากากอนามัย หรือวัดอุณหภูมิได้สูงกว่า 37.3 องศาเซลเซียส จะปฏิเสธการให้เข้าภายในอาคารท่าอากาศยาน
  5. จัดแอลกอฮอล์ความเข้มข้นไม่น้อยกว่า 70% สำหรับล้างมือไว้ให้บริการอย่างเพียงพอ
  6. จัดพื้นที่พักคอย และจุดยืนรอรับบริการตามสถานที่ต่าง ๆ โดยเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างน้อย 1 เมตร พร้อมจัดทำป้ายสัญลักษณ์ เครื่องหมายบนพื้น รวมทั้งการประกาศผ่านระบบเสียงประชาสัมพันธ์ตลอดเวลา
  7. ให้ความสำคัญใส่ใจดูแลรักษาความสะอาด โดยเพิ่มรอบความถี่ในการทำความสะอาดทุกพื้นที่ ทุกจุดต่าง ๆ ภายในท่าอากาศยาน แบบ Deep Cleaning อย่างต่อเนื่องทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง โดยเน้นการใช้น้ำยาทำความสะอาดฆ่าเชื้อสูตรของสถาบันบำราศนราดูร เช็ดทำความสะอาดบริเวณพื้นที่จุดสัมผัสต่าง ๆ เช่น ห้องน้ำ ลิฟต์ ทางเดินเลื่อน ราวบันได เก้าอี้พักคอย ถาดใส่สัมภาระ ถาดใส่รองเท้า รถเข็นกระเป๋าสัมภาระผู้โดยสาร เคาน์เตอร์ให้บริการสายการบิน เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์
  8. กำหนดให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย หรืออุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ตามภารกิจหน้าที่
  9. จัดเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและให้คำแนะนำผู้โดยสารเส้นทางการบินภายในประเทศในการโหลด AOT AIRPORTS Application ก่อนการเดินทางทุกครั้ง
  10. จัดที่นั่งภายในร้านอาหารโดยเว้นระยะห่างทางสังคมอย่างน้อย 1 เมตร
  11. บริหารจัดการสายพานรับสัมภาระไม่ให้เกิดการแออัดของผู้โดยสาร และแยกเที่ยวบินที่มีความเสี่ยงสูงไปใช้สายพานที่กำหนดไว้โดยเฉพาะ

นายกฤติยา กล่าวในตอนท้ายว่า ทอท.ขอให้ผู้โดยสารและพี่น้องประชาชนเชื่อมั่นในการดำเนินการตามมาตรการป้องกันโรคของภาครัฐ ทั้งนี้ การบริการอาจทำให้ผู้โดยสารไม่ได้รับความสะดวกสบาย ทอท.จึงขออภัยมา ณ ที่นี้ โดยผู้โดยสารสามารถสอบถามเที่ยวบินและการให้บริการได้ที่ AOT Contact Center 1722 ตลอด 24 ชั่วโมง

0 Comments
Share

Admin

Reply your comment

Your email address will not be published. Required fields are marked*