สังคมท้องถิ่น

“บิ๊กโจ๊ก” เปิดปฏิบัติการ Joint Mission by IUU Hunter ตรวจประมงกว่า 10,000 ลำ ก่อนออกใบอนุญาต เน้นความปลอดภัย

%e0%b8%9a%e0%b8%b4%e0%b9%8a%e0%b8%81%e0%b9%82%e0%b8%88%e0%b9%8a%e0%b8%81-%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b8%9b%e0%b8%8f%e0%b8%b4%e0%b8%9a%e0%b8%b1%e0%b8%95%e0%b8%b4%e0%b8%81

“บิ๊กโจ๊ก” เปิดปฏิบัติการ Joint Mission by IUU Hunter ตรวจประมงกว่า 10.000 ลำ ก่อนออกใบอนุญาต เน้นความปลอดภัย อาชีวอนามัย ให้แรงงานประมง

วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา 10.00 น. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. ในฐานะประธานคณะทำงานเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบ ควบคุม และเฝ้าระวังการทำประมง IUU เป็นประธานในการเปิดปฏิบัติการการตรวจเครื่องมือประมงแบบบูรณาการ เพื่อประกอบการออกใบอนุญาตประมงพาณิชย์ รอบปี 2565-2567 ณ ท่าเทียบเรือองค์การสะพานปลา ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ โดยมี นายอานันต์ อัลมาตร์ ผู้อำนวยการกองตรวจสอบเรือประมง สินค้าสัตว์น้ำ และปัจจัยการผลิต กรมประมง ในนามของเลขานุการคณะทำงานเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจสอบ ควบคุม เฝ้าระวังการทำประมงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย กล่าวรายงาน พร้อมด้วย คณะผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ จากหน่วยงาน กรมประมง กรมเจ้าท่า กรมสวัสดิการ และคุ้มครองแรงงาน ศูนย์รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) และผู้แทนองค์กรภาคประชาสังคม เข้าร่วมปฏิบัติการ

พระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 กำหนดให้เรือประมงพาณิชย์ที่จะออกทำการประมงต้องได้ใบอนุญาตจากกรมประมง คราวละ 2 ปี นับตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน – 31 มีนาคม โดยได้ปฏิบัติสืบเนื่องกันมา 3 ครั้งแล้ว ได้แก่ ช่วงปี 2559-2561 ช่วงปี 2561-2563 และช่วงปี 2563-2565 โดยที่ใบอนุญาตทำการประมงกำลังจะสิ้นสุดอายุลงในวันที่ 31มีนาคม 2565 เจ้าของเรือประมงพาณิชย์จึงต้องยื่น ขอใบอนุญาตรอบใหม่ (2565-2567) ซึ่งกรมประมงจะต้องออกใบอนุญาตให้ภายในวันที่ 31 มีนาคม 2565 ในการยื่นขอใบอนุญาตทำการประมงดังกล่าว ปกติกรมประมงจะดำเนินการตรวจสอบมาตรฐานเครื่องมือประมงและจัดเก็บข้อมูลเรือประมงทุกลำ แต่ยังมีข้อมูลบางประการที่ต้องการความรู้ ความชำนาญ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมเจ้าท่า กรมสวัสดิการ และคุ้มครองแรงงาน มาร่วมเติมเต็มให้ระบบตรวจสอบ ควบคุม และเฝ้าระวังการทำประมง มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น

ดังนั้น ในการขอรับใบอนุญาต ทำการประมงของเรือประมงพาณิชย์ครั้งนี้ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. จึงได้ประสานงานให้ บูรณาการการตรวจเรือประมงพาณิชย์จากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งระบบ ครบวงจร โดยกรมประมงรับผิดชอบการตรวจมาตรฐานเครื่องมือประมง กรมเจ้าท่ารับผิดชอบการตรวจอัตลักษณ์เรือประมง และกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานรับผิดชอบการตรวจเรือประมงเพื่อส่งเสริมให้แรงงานบนเรือประมง มีสภาพการทำงานที่สอดคล้องตามกฎหมายว่าด้วยความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน ยิ่งไปกว่านั้น พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. ยังได้จัดชุดปฏิบัติการจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือหน่วย “IUU Hunter” เข้าร่วมการตรวจเรือประมงในครั้งนี้ด้วย เพื่อยกระดับการติดตาม ควบคุม และเฝ้าระวัง (Monitoring Control and Surveillance : MCS) ให้การประมงไทย ปราศจากการประมง IUU ปราศจากแรงงานบังคับ ปราศจากการค้ามนุษย์ อย่างแท้จริง โดยดำเนินการตรวจเรือประมงพาณิชย์ 10,000 ลำ ที่จะขอรับใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – มีนาคม 2565 นี้ ซึ่งพี่น้องชาวเรือประมงพาณิชย์ทุกท่านสามารถนัดหมายการตรวจได้ที่ ศูนย์แจ้งเข้าออกเรือประมง (PIPO) หรือสำนักงานประมงจังหวัดทุกแห่ง “การบูรณาการตรวจเรือประมงทั้งระบบครั้งนี้ เป็นปฏิบัติการยกระดับประสิทธิภาพ การตรวจสอบติดตาม และเฝ้าระวังการทำประมง (MCS) ของประเทศไทย เพื่อมุ่งสู่บทบาท “ผู้นำการต่อต้านประมง IUU ในภูมิภาคอาเซียน”

นอกจากนั้น ยังเป็นการขับเคลื่อนให้เห็นถึงความพยายามของประเทศไทยอย่างเต็มที่ ในการบังคับใช้กฎหมาย ปรับปรุงระบบการทำงาน เพิ่มพูนความรู้ความสามารถของเจ้าหน้าที่ และประสานความร่วมมือจากพี่น้องชาวประมง เพื่อเลื่อนอันดับการค้ามนุษย์จาก Tier 2 Watchlist เป็น Tier 2 โดยได้จัดกำลังชุดปฏิบัติการ IUU Hunter จากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวนกว่า 100 นาย เข้าร่วมปฏิบัติการตรวจครั้งนี้ด้วย เจ้าหน้าที่ชุด IUU Hunter จะลงพื้นที่ทุกจุดตรวจใน 22 จังหวัดชายทะเล ร่วมกับ กรมประมง กรมเจ้าท่า และกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และจากการที่กำลังรื้อฟื้น สืบสวนสอบสวน ทุกคดีที่เกี่ยวข้องกับกรณีลูกเรือประมงตกน้ำสูญหาย 231 ราย ในรอบ 2 ปี ซึ่งเป็นที่จับตามองของ ภาคประชาสังคม เพื่อทำความกระจ่างให้เกิดขึ้นกับเหตุการณ์ความสูญเสียที่ผ่านมา ครั้งนี้จึงได้จัดให้มี การตรวจเพื่อส่งเสริมมาตรฐานความปลอดภัย และอาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน บนเรือประมง ขึ้นเป็นครั้งแรกของภูมิภาคอาเซียน เพื่อแสดงความมุ่งมั่นตั้งใจของประเทศไทยที่จะแก้ไขปัญหา และกำหนดมาตรการส่งเสริม ป้องกัน มิให้เกิดเหตุขึ้นต่อไปในอนาคต แต่หากมีเหตุเกิดขึ้น การบังคับใช้กฎหมายจะมีความเป็นระบบ ชัดเจน สามารถนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้อย่างทันท่วงที รวมทั้ง เพิ่มความรวดเร็วในการเยียวยาความเสียหายให้กับครอบครัวหรือญาติมิตร ในฐานะเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ซึ่งผมมั่นใจว่านี่คือการทำงานอย่างมาตรฐานสากล

ในการตรวจครั้งนี้ ท่านนายกรัฐมนตรี ท่านรองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ในฐานะประธานกรรมการนโยบายการประมงแห่งชาติ ได้เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกคน อำนวยความสะดวก ให้กับพี่น้องชาวประมง ดำเนินการตรวจให้รวดเร็ว คล่องแคล่ว ว่องไว เรือที่ผ่านการตรวจจะได้รับเครื่องหมาย ติดไว้บริเวณหน้าเก๋ง เป็นสัญลักษณ์ว่า เรือประมงลำนี้มีความมุ่งมั่น ตั้งใจที่จะทำการประมงอย่างยั่งยืน สามารถเข้าถึงนโยบายการสนับสนุนต่าง ๆ จากภาครัฐที่จะมีขึ้นต่อไปในอนาคต

0 Comments
Share

Admin

Reply your comment

Your email address will not be published. Required fields are marked*