ข่าวประชาสัมพันธ์, สังคมท้องถิ่น

“เรวดี” เปิดงานปีผู้สูงวัย ปากน้ำ! อนุทิน โฟนอิน พร้อมกันทั่วประเทศ ยัน สธ. จะดูแลผู้สูงอายุ มีชีวิตยืนยาวอย่างมีคุณภาพ

%e0%b9%80%e0%b8%a3%e0%b8%a7%e0%b8%94%e0%b8%b5-%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b8%87%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%9b%e0%b8%b5%e0%b8%9c%e0%b8%b9%e0%b9%89%e0%b8%aa%e0%b8%b9%e0%b8%87

กระทรวงสาธารณสุข เดินหน้ากิจกรรม “ปีแห่งสุขภาพสูงวัยไทย” พร้อมกันทั่วประเทศ มอบของขวัญปีใหม่ 2566 ให้ผู้สูงอายุกว่า 10 ล้านคน ด้วยการดูแลสุขภาพทั้งกายใจ มุ่งเสริม “สุขภาพ” เพิ่ม “ความสุข” ให้ผู้สูงอายุมีชีวิตยืนยาวอย่างมีคุณภาพ

เมื่อวันที่ 28 ม.ค. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้โฟนอิน จากโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา งานเปิดกิจกรรม “ปีแห่งสุขภาพสูงวัยไทย” มอบของขวัญปีใหม่ 2566 แก่ผู้สูงอายุ โดยมีสำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัด มีการเปิดโครงการรวมพลัง อสม.มอบของขวัญปีใหม่ ใส่ใจผู้สูงอายุ พ.ศ. 2566 ปี แห่งสุขภาพสูงวัยไทย พร้อมกันทั่วประเทศทั้ง 12 เขตสุขภาพ 13 จังหวัด ประกอบด้วย โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป และโรงพยาบาลชุมชน ร่วมถ่ายทอดสดพร้อมกันทั่วประเทศ โดย ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เป็นประธานขับเคลื่อนกิจกรรมที่ จังหวัดระยองด้วยนั้นว่า

ในปี 2566 ประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างสมบูรณ์ และจะมีคนไทยอายุ 60 ปี เพิ่มขึ้นปีละ1 ล้านคน ส่งผลให้ภายในปี พ.ศ. 2576 ประเทศไทยจะมีประชากรผู้สูงอายุถึง ร้อยละ 28 ของประชากร รัฐบาลจึงได้ปรับแผนงานรองรับ เพื่อให้เกิดการดำเนินการอย่างครอบคลุมในทุกมิติ

สำหรับกระทรวงสาธารณสุขในฐานะองค์กรหลักด้านสุขภาพของประเทศ ได้ประกาศให้ปี 2566 เป็น “ปีแห่งสุขภาพสูงวัยไทย” มีนโยบายให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลอย่างเป็นระบบและทั่วถึงทั้งร่างกายและจิตใจ ประกอบด้วย 1.การคัดกรองสุขภาพผู้สูงอายุ โดย อสม. และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ให้ครอบคลุมผู้สูงอายุกว่า 10 ล้านคน 2.ให้โรงพยาบาลทุกระดับของกระทรวงสาธารณสุข มีคลินิกผู้สูงอายุ เพื่อให้เข้าถึงบริการสุขภาพได้อย่างรวดเร็วและทั่วถึง 3.สนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุ ได้แก่ แว่นสายตา 500,000 อัน ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ 5 ล้านชิ้น ฟันเทียม 50,000 ชุด และรากฟันเทียมสำหรับผู้สูงอายุที่มีปัญหาในการใส่ฟันเทียม 5,000 ราก เพื่อส่งเสริม “สุขภาพ” เพิ่ม “ความสุข” ให้ผู้สูงอายุมีชีวิตยืนยาวอย่างมีคุณภาพ ช่วยสนับสนุนให้ครอบครัวมีพลังในการดำเนินชีวิต เกิดความเข้มแข็งทางสุขภาพ ซึ่งถือเป็นต้นทุนในการสร้างรายได้ สร้างเศรษฐกิจของประเทศ นำไปสู่เป้าหมาย “ประชาชนแข็งแรง เศรษฐกิจไทยเข้มแข็ง ประเทศไทยแข็งแรง” ต่อไป

ขณะที่จังหวัดสมุทรปราการได้จัดงาน ณ ห้องประชุมโรงเรียนวัดทรงธรรม อ.พระประแดงจ.สมุทรปราการ โดยมีนางสาวเรวดี รัศมิทัต ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมทั้งนายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ สาธารณสุขนิเทศก์เขตสุขภาพที่ 6 นายแพทย์นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมานายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ นายโชติพงษ์ เปล่งวิทยา นายอำเภอพระประแดงนางจิระพร วชิรเขื่อนขันธ์ นายกเทศมนตรีเมืองพระประแดง นายวัชระ เติมวรรธนภัทร์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลทรงคนอง นายประภาส กรุดพันธ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดทรงธรรม คณะผู้บริหารเจ้าหน้าที่ในสังกัดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการและอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) จังหวัดสมุทรปราการ เข้าร่วมในพิธีเปิดครั้งนี้รวมทั้งสิ้นจำนวน 750 คน

นางสาวเรีวดี รัศมิทัต ที่ปรึกษา รมต. สธ. กล่าวว่า จากสถาพการณ์ผู้สูงอายุไทย มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น มีการคาดการณ์ว่าในปี พ.ศ. 2578 จะมีผู้สูงอายุสูงถึงร้อยละ 28.55 ของประชากรทั้งประเทศ ซึ่งการเตรียมการรองรับสถานการณ์สังคมสูงอายุ จึงเป็นประเด็นสำคัญ และในปี พ.ศ.2566 เป็นปีแห่งสุขภาพสูงวัยไทย ทุกหน่วยงานต้องขับเคลื่อนแนวทางเพื่อสังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบ มีองค์ประกอบหลักในการดำเนินงาน คือ การส่งเสริมให้ผู้สูงอายุดูแลตัวเองและพึ่งพาตัวเองได้ และจัดระบบบริการให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง

ในปัจจุบัน จังหวัดสมุทรปราการมีผู้สูงอายุ จำนวน 195,964 คน คิดเป็นร้อยละ 15.07 ของจำนวนประชากร สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ ได้ร่วมกับหน่วยงานในสังกัดและภาคีเครือข่าย ทำการขับเคลื่อนนโยบาย “ปีแห่งสุขภาพสูงวัยไทย” ด้วยการจัดระบบการคัดกรองสุขภาพ และประเมินความเสี่ยง 9 ด้านโดยกลไก 3 หมอดูแลถึงบ้าน และส่งต่อ ในรายที่มีความเสี่ยง การจัดตั้งคลินิกผู้สูงอายุในโรงพยาบาล การสนับสนุนชมรมผู้สูงอายุ และการสนับสนุนอุปกรณ์ผู้สูงอายุร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น

ด้าน นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ในการมอบของขวัญปีใหม่เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ กระทรวงสาธารณสุขได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดทั้งส่วนกลางและภูมิภาค บูรณาการความร่วมมือกันให้เกิดความครอบคลุม อาทิ กรมอนามัย และกรมสุขภาพจิต ร่วมพัฒนาแบบคัดกรองสุขภาพผู้สูงอายุ โดยใช้แบบคัดกรองความถดถอย 9 ด้าน ด้วยแอปพลิเคชั่นสมุดบันทึกสุขภาพผู้สูงอายุ (Blue Book Application) เพื่อค้นหาความเจ็บป่วย 2.กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข โดย อสม.และเจ้าหน้าที่สาธารณสุขใน รพ.สต. คัดกรองความถดถอย 9 ด้านของผู้สูงอายุ ด้วยแอปพลิเคชั่น SMART อสม. ทำให้ผู้สูงอายุทราบสถานะสุขภาพของตนเองผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัล และดำเนินการวางแผนการดูแลรักษา ส่งต่อผู้ที่พบความผิดปกติ ผ่านกลไก 3 หมอ 3.กรมการแพทย์ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข และโรงพยาบาลทุกแห่ง พัฒนาคลินิกผู้สูงอายุ รองรับการส่งต่อผู้สูงอายุที่พบความเสี่ยงต่อการเกิดโรค และ 4.สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) สนับสนุนวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุ ผ่านกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กองทุนหลักประกันสุขภาพระดับท้องถิ่น และกองทุนระบบการดูแลระยะยาวด้านสาธารณสุข

โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขประเมินความต้องการ และจัดหาวัสดุอุปกรณ์ให้เหมาะสมกับสุขภาพของผู้สูงอายุแต่ละราย ทั้งนี้ กองยุทธศาสตร์และแผนงาน และกองบริหารการสาธารณสุข จะติดตามการขับเคลื่อนกิจกรรมอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ผู้สูงอายุได้รับบริการที่เหมาะสมต่อสุขภาพเป็นของขวัญปีใหม่อย่างทั่วถึง เกิดสุขภาพที่แข็งแรงอย่างยั่งยืน

ทางด้าน นายแพทย์นเรศฤทธิ์ ขัดธะสีมา นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า จากนโยบายดังกล่าว ของกระทรวงสาธาณสุข อสม.เป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในฐานะหมอคนที่ 1 ในการคัดกรองสุขภาพผู้สูงอายุและคูแลผู้สูงอายุในชุมชน ร่วมกับหมอคนที่ 2 ใน รพ.สต.และหมอคนที่ 3 ในชุมชน เพื่อให้ อสม.สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรปราการ ได้จัดรวมพลัง อสม.มอบของขวัญปีใหม่ ใส่ใจผู้สูงอายุ เปิดอบรมเสริมทักษะ เพื่อให้ อสม.มีความรู้ ทักษะในการดูแลสุขภาพผู้สูงอายุ มีกลุ่มเป้าหมายเบื้องต้นจำนวน 650 คน พร้อมทั้งมีการมอบแว่นตา มอบเข็มเชิดชู อสม.ที่ทำงานครบ 30 ปี 40 ปี คัดกรองใส่รากฟันเทียม ให้กลุ่มเป้าประสงค์ด้วย นพ.สสจ. กล่าว

0 Comments
Share

Admin

Reply your comment

Your email address will not be published. Required fields are marked*