อาชญากรรม

สืบนครบาลรวบแล้ว แก๊งมือยิงนักเรียนคู่อริ กระสุนพลาดถูกครูเจี๊ยบและน้องหยอดดับ เขตคลองเตย

%e0%b8%aa%e0%b8%b7%e0%b8%9a%e0%b8%99%e0%b8%84%e0%b8%a3%e0%b8%9a%e0%b8%b2%e0%b8%a5%e0%b8%a3%e0%b8%a7%e0%b8%9a%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%a7-%e0%b9%81%e0%b8%81%e0%b9%8a%e0%b8%87%e0%b8%a1%e0%b8%b7

สืบนครบาลรวบแล้ว แก๊งมือยิงนักเรียนคู่อริ กระสุนพลาดถูกครูเจี๊ยบและน้องหยอดดับ เขตคลองเตย ภายใต้ปฏิบัติการปิดเมืองล่า เร่งสรุปสำนวนส่งละลายพฤติกรรมเรือนจำแบบยาวๆ

จากกรณีมีคนร้าย 2 คนใช้อาวุธปืนยิงนักเรียนคู่อริ กระสุนพลาดถูก น.ส.ศิรดา อายุ 45 ปี หรือครูเจี๊ยบ ครูสอนคอมพิวเตอร์ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ และ นายธนสรณ์ อายุ 19 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตอุเทนถวาย เสียชีวิต บริเวณหน้าธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด สาขาคลองเตย แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2566 เวลาประมาณ 09.30 น.

ล่าสุด วันที่ 22 พฤศจิกายน 2566 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูนสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พล.ต.ต วิทวัส ชินคำ ผบก.น.5 พร้อมด้วย พ.ต.อ.เกียรติศักดิ์ สระทองออย รอง ผบก สส.บช.น. พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ปนาถพล ปุณศรี รอง ผบก.น.5 พ.ต.อ.อิสเรศ ปาลาพงศ์ รอง ผบก.ฯรรท. ผกก.3 บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.วิชิต ถิรขจรวงศ์ ผกก.สส.1บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธัญญพัทธ์ บุญสุข ผกก.สส.2 ฯ พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวฯ บก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ศิรณวิชญ์ อินทร ผกก.สืบสวน บก.น.5 ,พ.ต.อ.ธรรมศักดิ์ สารบุญ ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สืบนครบาล , สืบ บก.น. 5 , สน. ทุ่งมหาเมฆ ได้ร่วมกันจับกุมตัว

1.นายพฤฒิพล ราชญาณ หรือเอย อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14/2019 ม.13 ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาที่ 1 ตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ที่ จ.121/2566 ลง 13 ก.พ. 66 ผู้ต้องคนที่ 1 พร้อม
2.นายวรงชัย กัณฑ์ศรี อายุ 20 ปี บ้านเลขที่ 120 ต คลองพระอุดม อ ปากเกร็ด นนทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ 1072/2566 ลง 22 พ.ย.66
3.นายวุฒิพงษ์ ผลคำ อายุ 25 ปีที่อยู่ 136 ม.4 ต.บึงแ ก อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร
4.นายสัญปกรณ์ พรรณานนทศักดิ์ อายุ 24 ปีที่อยู่ 148 ม.16 ต.พรสำราญ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์
5.นายสหัสวรรษ ภักดีนอก อายุ 23 ปีที่อยู่ 23 ม.2 ต.บางขนุน อ.บางกรวย จ.นนทบุรี
6.นายจิรายุส สุวรรณศุภ อายุ 23 ปีที่อยู่ 149 ถ.พระราม 5 แขวงถนนนครชัยศรี เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร
7.นายธนากร พันทองคำ อายุ 22 ปีที่อยู่ 3/19 ม.3 ต.บางขะแยง อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี
8.นายอภิเดช นาคประกอบ อายุ 21 ปีที่อยู่ 180/198 ม.1 ต.บางขะแยง อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี

พบของกลาง คือ 1. เสื้อยืดสีดำ 1ตัว 2. เสื้อฮู้ดแขนยาวสีน้ำตาล 1 ตัว 3.กางเกง dickies สีครีม 1ตัว 4.บุหรี่ 2 ซอง 5.หัวเข็มขัด 1 อัน 6.รองเท้า adda 1คู่ 7.รองเท้า คาดขาว 1 คู่ 8.โทรศัพท์ Iphone 11 1เครื่อง 9.Path ปทุมวัน 1 อัน 10.เมมโมรี่การ์ด 1 อัน 11.รถยนต์ toyota vios 1คัน ทะเบียน กฉ 2673 พระนครศรีอยุธยา 12.ระเบิดปิงปอง 2 ลูก

โดยแยกกล่าวผู้ต้องหาที่ 1 ข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน , ร่วมกันพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุสมควร , ร่วมกันยิงปืน(ซึ่งใช้ดินระเบิด)โดยใช่เหตุในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชน

กล่าวหาผู้ต้องหาที่ 2 ว่าข้อหา ร่วมกัน สมคบกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป เพื่อกระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใด ตามที่บัญญัติไว้ในภาค 2

กล่าวหาผู้ต้องหาที่ 3-8 ว่าร่วมกันสบคบกันตั้งแต่ 5 คน กระทำความผิดอย่างหนึ่งอย่างใด ตามที่บัญญัติไว้ในภาค 2 หรือซ่องโจร

กล่าวคือนายพฤฒิพล ผู้ต้องหาทำหน้าที่เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ให้คนร้ายอีกคน(จับได้)ยิงก่อเหตุกราดยิงใส่นักศึกษาช่างกลอุเทนถวายที่บริเวณ หน้าคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 66 ที่ผ่านมาและเป็นคนเดียวที่ยังหลบหนีอยู่ หลังรวบตัวหัวโจกได้ และจากการสืบสวนได้เป็นผู้ช่วยวางแผน และช่วยเหลือกลุ่มคนร้ายในการยิงน.ส.ศิรดาหรือครูเจี๊ยบ และ นายธนสรณ์บริเวณหน้าธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด สาขาคลองเตย แขวงพระโขนง เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร โดยมีหน้าที่เป็นเหรัญญิกรวบรวมเงิน

โดยจับกุมตัวผู้ต้องหาที่ 1 ได้ที่ หน้าตึก 5 เคหะเอื้อาทรบางบัวทอง ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง นนทบุรี
ผู้ต้องหาที่ 2 ได้บ้านเลขที่ 46/1 หมู่ 5 ต. ทวีวัฒนา อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ส่วนผู้ต้องหาที่ 3-8 ได้ที่บ้านเลขที่ 22/1 ซ.วงศ์สว่าง 19 แยก 2 แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ จ.กรุงเทพฯ งต้นผู้ต้องหาที่ 1-8 ในเบื้องต้นให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

ด้าน พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า จากข้อมูลการสืบสวนสอบสวนของตำรวจที่ผ่านมา พูดได้เลยว่ามีการพัฒนาจนเกินกว่า “องค์กรอาชญากรรม” ไปแล้ว มันไม่ใช้แค่ขี่รถมาก่อเหตุ มันมีการวางแผนกันเป็น 10 คน “ยิ่งกว่าในภาพยนตร์” มีรุ่นพี่ผู้ผ่านประสบการณ์เป็นพี่เลี้ยง มีกองทุนเพื่อไว้หาอุปกรณ์ก่อเหตุ กองทุนไว้ประกันตัว จ้างทนายมาต่อสู้คดี และที่เห็นจะเลวร้ายที่สุดคือเมื่อมีคนถูกจับได้ พอถึงชั้นเบิกความก็จะตามพรรคพวกมานั่งแห่ฟังการไต่สวนของชุดสืบสวน เอาไปพัฒนารูปแบบการก่อเหตุไม่ให้โดนจับได้อีก มันไม่ใช่เรื่องที่เราในสังคมจะมองข้ามกันได้แล้ว เพราะมันลุกลามบานปลายมาจนมีผู้บริสุทธิ์ต้องมาเผชิญชะตากรรมเลวร้ายจากกลุ่มบุคคลนี้

ทั้งนี้ก่อนเปิดปฏิบัติการล่าแก๊งคนร้ายพลิกเมือง พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ให้ใช้ “มาตรการเด็ดขาด” พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ รอง ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. สั่งการให้ บช.น. เร่งรัดสืบสวนและจับกุมคนร้ายโดยเร็วเนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์และเป็นที่สนใจของประชาชน และคนร้ายมีจิตใจโหดเหี้ยมลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมแบบมือปืน พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ลงมาควบคุมโดยเรียกระดมกำลัง บก.สส.บช.น. , กก.สส.บก.น.5 , กก.สส.บก.น.6 และ สน.ทุ่งมหาเมฆ เร่งสืบสวนติดตามคนร้ายในคดีนี้และให้ทำแบบ “ขุดรากถอนโคน” แต่งานนี้ไม่หมูเพราะไม่ต่างกับการไล่ปราบกองโจรในสมัยก่อน และสั่งมอบดาบให้กับ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. คุมบังเหียนชุดสืบสวนเอง โดยหยิบมือดีจากทั่วนครบาลลงพื้นที่สืบสวนอย่างละเอียดกว่า 1 สัปดาห์ ร่วมกับ พล.ต.ต วิทวัส ชินคำ ผบก.น.5 เจ้าของพื้นที่ “เปิดปฏิบัติการปิดเมืองล่ามือยิงครูเจี๊ยบและน้องหยอด”

โดยจากการสืบสวนจากกล้องวงจรปิดกว่า 1,000 ตัว ทั้งกรุงเทพและปริมณฑล จนพบรถจักรยานยนต์คันก่อเหตุ ซึ่งคนร้ายได้พยายามลบร่องรอยการติดตามเกือบทุกขั้นตอน อีกทั้งคนร้ายได้ลักแผ่นป้ายทะเบียนรถจักรยานยนต์ 2 แห่ง ในพื้นที่ สน.ดินแดง และ สน.ประชาชื่น เพื่อใช้ในการตบตาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน มีการทิ้งจุดเพื่อหลอกล่อให้ชุดสืบสวนเข้าใจผิดหรือหลงประเด็น และเปลี่ยนสีรถจักรยานยนต์คันเกิดเหตุจากสีแดง เปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน พร้อมทั้งมีการเปลี่ยนเครื่องแต่งกายของคนร้ายทั้งหมด และมีคนร้ายอีกหลายคนให้การช่วยเหลือก่อเหตุดังกล่าว ผู้การจ๋อจึงได้จัดทีมวิเคราะห์เส้นทางหลบหนี พร้อมเอาแฟ้มข้อมูลแผนประทุษกรรมกลุ่มบุคคลในเครือข่ายก่อนหน้าเพื่อเชื่อมโยงพบมีลักษณะก่อเหตุของคนร้ายคล้ายคลึงกัน คนร้ายแบ่งขั้นตอนวางแผนดูเส้นทางเข้าที่เกิดเหตุ เส้นทางหลบหนี ที่พักคอย จุดเปลี่ยน และตระเตรียมจุดที่ลงมือ ไม่ธรรมดาคนเดียวที่ทำไม่ได้ จนพบพยานหลักฐานยืนยันกลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มครู่อริมีผู้ร่วมขบวนการไม่ต่ำกว่า 5 คน สืบทราบแหล่งเซฟเฮ้าส์อีก 4 แห่งวงศ์สว่าง 19 เป็นเซฟเฮาส์ทำกิจกรรม

0 Comments
Share

Admin

Reply your comment

Your email address will not be published. Required fields are marked*